ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2558

ข่าวทั่วไป Wednesday January 21, 2015 16:14 —สำนักโฆษก

ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2558 (ตุลาคม – ธันวาคม 2557) จัดเก็บได้ 506,978 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 5,131 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 1.0 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 0.7) เนื่องจากการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจและการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่น สูงกว่าเป้าหมาย 14,969 และ 8,029 ล้านบาท หรือร้อยละ 47.1 และ 17.2 ตามลำดับ ขณะที่การจัดเก็บรายได้ของ 3 กรมจัดเก็บภาษีสังกัดกระทรวงการคลังจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 14,344 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 2.9 สาเหตุสำคัญมาจากภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 11,131 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.0 เนื่องจากผลการจัดเก็บภาษีรอบครึ่งปีบัญชี (ภ.ง.ด. 51) ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายจากการจำหน่ายกำไร (ภ.ง.ด. 54) จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการเป็นสำคัญ

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2558 (ตุลาคม – ธันวาคม 2557) จัดเก็บได้ 506,978 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 5,131 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 1.0 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 0.7) เนื่องจากการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจและการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่นสูงกว่าเป้าหมาย 14,969 และ 8,029 ล้านบาท หรือร้อยละ 47.1 และ 17.2 ตามลำดับ ขณะที่การจัดเก็บรายได้ของ 3 กรมจัดเก็บภาษีสังกัดกระทรวงการคลังจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 14,344 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 2.9 สาเหตุสำคัญมาจากภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 11,131 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.0 เนื่องจากผลการจัดเก็บภาษีรอบครึ่งปีบัญชี (ภ.ง.ด. 51) ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายจากการจำหน่ายกำไร (ภ.ง.ด. 54) จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ นายกฤษฎาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจและการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่นที่สูงกว่าเป้าหมาย เป็นปัจจัยสนับสนุนให้การจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2558 สูงกว่าเป้าหมาย สำหรับในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ 2558 คาดว่าภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นจะส่งผลดีต่อการจัดเก็บรายได้”

ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิเดือนธันวาคม 2557 และในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2558 (ตุลาคม – ธันวาคม 2557)

ในเดือนธันวาคม 2557 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 170,382 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 2,046ล้านบาท หรือร้อยละ 1.2 (แต่สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 7.5) ส่งผลให้ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2558 รายได้รัฐบาลสุทธิเท่ากับ 506,978 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 5,131 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.0 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 0.7) รายละเอียดสรุปได้ ดังนี้

1. เดือนธันวาคม 2557

รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 170,382 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 2,046 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.2 (แต่สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 7.5) โดย 3 กรมจัดเก็บภาษีสังกัดกระทรวงการคลังจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการ 8,436 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.9 สำหรับภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และภาษีเงินได้ปิโตรเลียม จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 5,996 2,294 1,762 และ 1,591 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.6 3.7 19.5 และ 73.9 ตามลำดับ อย่างไรก็ดี การจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่นสูงกว่าเป้าหมาย 6,477 ล้านบาท หรือร้อยละ 32.1 สาเหตุสำคัญมาจากการส่งคืนเงินกันชดเชยให้แก่ผู้ส่งออกเป็นรายได้แผ่นดินสูงกว่าประมาณการ 5,562 ล้านบาท นอกจากนี้ ภาษีน้ำมันจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 2,116 ล้านบาท หรือร้อยละ 38.9 เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราภาษีน้ำมันดีเซลจาก 0.75 บาทต่อลิตร เป็น 3.25 บาทต่อลิตร

2. ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2558 (ตุลาคม – ธันวาคม 2557)

รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 506,978 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 5,131 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.0 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 0.7) ทั้งนี้ การจัดเก็บรายได้ของ 3 กรมจัดเก็บภาษีสังกัดระทรวงการคลังต่ำกว่าประมาณการ 14,344 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.9 ในขณะที่การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจและการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่นสูงกว่าประมาณการ 14,969 และ 8,029 ล้านบาท หรือร้อยละ 47.1 และ 17.2 ตามลำดับ

ผลการจัดเก็บรายได้ตามหน่วยงานจัดเก็บสรุปได้ ดังนี้

2.1 กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้รวม 349,183 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 9,934 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.8 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 2.1) โดยภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 11,131 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.0 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 7.0) เนื่องจากผลการจัดเก็บภาษีรอบครึ่งปีบัญชี (ภ.ง.ด. 51) ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายจากการจำหน่ายกำไร (ภ.ง.ด. 54) จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการเป็นสำคัญ สะท้อนการขยายตัวของผลประกอบการของภาคเอกชนในช่วงที่ผ่านมาที่ต่ำกว่าเป้าหมายตามภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำ นอกจากนี้ ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมจัดเก็บได้ ต่ำกว่าเป้าหมาย 2,181 ล้านบาท หรือร้อยละ 63.6 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 59.8) สำหรับภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ใกล้เคียงกับเป้าหมาย โดยภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภคในประเทศจัดเก็บสูงกว่าเป้าหมาย 2,399 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.4 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.7) ขณะที่ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการนำเข้าจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 2,719 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.5 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 4.4) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดี ภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 2,955 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.0 (แต่ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 0.4) เนื่องจากภาษี เงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภาคเอกชนจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายเป็นสำคัญ

2.2 กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 102,213 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 3,836 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.6 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 2.0) โดยภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีสรรพสามิตรถยนต์จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 4,979 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.2 (ต่ำกว่า ช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 23.6) สาเหตุมาจากความต้องการซื้อรถยนต์ที่ยังไม่ฟื้นตัว นอกจากนี้ ภาษีสุรา และภาษีเบียร์จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 2,650 และ 2,392 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.2 และ 10.0 ตามลำดับ (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 16.3 และ 5.8 ตามลำดับ) อย่างไรก็ดี ภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษียาสูบจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 3,339 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.0 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 30.4) และภาษีน้ำมันจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 2,553 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.0 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 22.3) เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราภาษีน้ำมันดีเซลจาก 0.75 บาทต่อลิตร เป็น 3.25 บาทต่อลิตร

2.3 กรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 30,326 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 574 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.9 (แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 0.5) เป็นผลจากมูลค่าการนำเข้าที่ยังคงหดตัว โดยมูลค่าการนำเข้าในรูปดอลลาร์สหรัฐ และเงินบาทในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 หดตัวร้อยละ 4.2 และร้อยละ 1.0 ตามลำดับ ทั้งนี้ สินค้าที่จัดเก็บอากรขาเข้าได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ยานบกและส่วนประกอบ เครื่องจักรและเครื่องใช้กล เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ประกอบ ของทำด้วยเหล็กหรือเหล็กกล้า และพลาสติก

2.4 รัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้รวม 46,756 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 14,969 ล้านบาท หรือร้อยละ 47.1 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 1.2) เนื่องจากการนำส่งรายได้ของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การประปาส่วนภูมิภาค และการท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่สูงกว่าประมาณการเป็นสำคัญ

2.5 หน่วยงานอื่น จัดเก็บรายได้รวม 54,820 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 8,029 ล้านบาท หรือร้อยละ 17.2 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 43.3) สาเหตุสำคัญมาจากการส่งคืนเงินกันชดเชยให้แก่ ผู้ส่งออกเป็นรายได้แผ่นดินสูงกว่าประมาณการ 5,562 ล้านบาท และค่าใบอนุญาตต่างด้าวจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 888 ล้านบาท สำหรับกรมธนารักษ์จัดเก็บรายได้รวม 2,302 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 95 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.0 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 6.6) เนื่องจากการจัดเก็บรายได้ที่ราชพัสดุต่ำกว่าประมาณการเป็นสำคัญ

2.6 การคืนภาษีของกรมสรรพากร จำนวน 65,828 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 3,866 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.2 ประกอบด้วยการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 59,401 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 3,201 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.7 และการคืนภาษีอื่นๆ (ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์) จำนวน 6,427 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 665 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.5

2.7 อากรถอนคืนกรมศุลกากร จำนวน 3,187 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 787 ล้านบาท หรือร้อยละ 32.8

2.8 การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวน 3,717 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 672 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.3

2.9 เงินกันชดเชยภาษีสำหรับสินค้าส่งออก จำนวน 3,588 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 458 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.3

สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

โทร. 02 273 9020 ต่อ 3517

ที่มา : กระทรวงการคลัง

ผู้นำเสนอ : กลุ่มสารนิเทศการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ