พลตำรวจเอก สุวัฒน์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญมากกับการพัฒนาเด็กและเยาวชนอย่างเหมาะสมและรอบด้านในแต่ละช่วงวัย โดยเฉพาะช่วงวัยเยาวชน เป็นกลุ่มคนที่เป็นพลังสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาเยาวชน รวมทั้งแก้ไขปัญหา ที่อาจมีผลกระทบในทางลบต่อเยาวชน ภายใต้หลักการคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเยาวชน และมุ่งเน้นให้เยาวชนมีส่วนร่วม ทั้งร่วมคิด ร่วมวางแผน และร่วมลงมือทำ โดยตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๕๐ กำหนดให้มีคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ เป็นกลไกระดับนโยบายด้านเด็กและเยาวชนของไทย มีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รวมทั้งกำหนดให้มีสภาเด็กและเยาวชนระดับอำเภอ จังหวัด และสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย เป็นกลไกของเด็กและเยาวชน ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีบทบาทและส่วนร่วมอย่างเต็มที่ ในการประสานการขับเคลื่อนงานพัฒนาเยาวชน
พลตำรวจเอก สุวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีนโยบายสำคัญในการปลูกฝังให้เยาวชน มีค่านิยม ๑๒ ประการ ได้แก่ ๑)รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ๒)ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน ๓)กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ ๔)ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียน ๕)รักษาวัฒนธรรมประจำชาติ ๖)มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ ๗)เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตย ๘)มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ๙)มีสติรู้ตัว รู้คิด รู้ทำ รู้ปฏิบัติ ๑๐)รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ๑๑)มีความเข้มแข็งทั้งร่างกาย และจิตใจ และ ๑๒)คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม ทั้งนี้ โดยมีเป้าหมายของการพัฒนา เพื่อให้เยาวชนมีความมั่นคงในการดำรงชีวิตอย่างทั่วถึง มีความแข็งแรงทางร่างกายและจิตใจ มีคุณธรรม จริยธรรม มีสำนึกความเป็นพลเมืองและมีความสุข
“ไอวายเอฟ (IYF) มีต้นกำเนิดมาจากสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งสาธารณรัฐเกาหลีและประเทศไทย มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันเป็นเวลานาน และเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญของประเทศไทย ซึ่งการจัดงานฯครั้งนี้ จะเป็นการสานความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น” พลตำรวจเอก สุวัฒน์ กล่าวท้าย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th