นายกรัฐมนตรีแสดงความห่วงใยต่อประเด็นความมั่นคงพลังงาน ต้องการให้สังคมได้รับคำตอบที่ถูกต้อง มีความเข้าใจ กำชับให้กระทรวงพลังงานชี้แจงข้อมูลให้ชัดเจนต่อไป

ข่าวทั่วไป Friday February 20, 2015 13:43 —สำนักโฆษก

รองโฆษกรัฐบาลหวังให้สังคมได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ชัดเจน จากการแสดงความคิดเห็นเรื่องความมั่นคงทางด้านพลังงานของประเทศไทย

วันนี้ (20 ก.พ.58) เวลา 09.10 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ก่อนการรับฟังความคิดเห็นในเวที “เดินหน้าประเทศไทย เพื่อความมั่นคงทางพลังงานที่ยั่งยืน” ว่า การรับฟังความเห็นในวันนี้เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งของกระทรวงพลังงาน และกลุ่มผู้แสดงความห่วงใยได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นเรื่องความมั่นคงทางด้านพลังงานของประเทศไทยว่าจะมีแนวโน้มเป็นไปอย่างไร ซึ่งประเด็นสำคัญที่จะมีการพูดคุยหารือในวันนี้ จากการพูดคุยหารือของรัฐบาล และได้รวบรวมข้อมูลจากกลุ่มที่เห็นต่างแล้ว สรุปได้จำนวน 2 ประเด็น คือ 1.เรื่องเกี่ยวกับกฎหมายว่ามีความครบถ้วนในเนื้อหาครอบคลุมผลประโยชน์ของประเทศชาติหรือไม่ ถ้าจะมีการเดินหน้าเปิดสัมปทานด้านพลังงานต่อไป 2.ถ้าหยุดหรือชะลอการเปิดสัมปทานจะมีผลกระทบอย่างไร และใครจะเป็นคนรับผิดชอบต่อความเสียหาย

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ในวันนี้จะต้องมีการอธิบายให้ชัดเจนเรื่องความมั่นคงทางพลังงานทั้งในส่วนของกระทรวงพลังงาน และกลุ่มผู้แสดงความห่วงใย ทั้งสองฝ่ายต้องตอบข้อสงสัยของสังคมให้ความชัดเจนถึงเหตุผลที่ต้องเปิดสัมปทานพลังงาน และเหตุผลที่ต้องชะลอการเปิดสัมปทานพลังงาน โดยขอให้ประชาชนติดตามการแสดงความคิดเห็นในวันนี้ ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 และทางสื่อต่าง ๆ ที่มีการเชื่อมต่อสัญญาณไปเผยแพร่ พร้อมกับขอให้ประชาชนแยกแยะข้อเท็จจริง เหตุผล อารมณ์ และความรู้สึก

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สำหรับข้อมูลที่ได้รับในวันนี้ และได้รับจากทุกช่องทาง รัฐบาลจะนำไปรวบรวมและไปประเมินเพื่อหารือถึงแนวทางการดำเนินการต่อไปภายในระยะเวลาที่เร็วที่สุด พร้อมกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเป็นห่วงต่อประเด็นความมั่นคงทางด้านพลังงาน โดยต้องการให้สังคมได้รับคำตอบเกี่ยวกับประเด็นพลังงานที่มีความถูกต้อง มีความเข้าใจ พร้อมกำชับให้กระทรวงพลังงานชี้แจงข้อมูลให้ชัดเจนต่อไป

พร้อมกันนี้ รัฐบาลยังเปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นผ่านทางศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หมายเลขโทรศัพท์ 1111 ทั้งนี้ รัฐบาลจะรวบรวม ประเมิน หารือกันว่า จะดำเนินการอย่างไร เพื่อสร้างความชัดเจนในเรื่องนี้ต่อไป

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ