นายกรัฐมนตรีเห็นชอบให้ กขน. ดำเนินการขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายสำคัญและเร่งด่วนใน 5 ประเด็น

ข่าวทั่วไป Monday February 23, 2015 16:06 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล (กขน.) เห็นชอบให้ กขน.ขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายสำคัญและเร่งด่วนใน 5 ประเด็น พร้อมสั่งการให้รับซื้อยางพาราตรงจากเกษตรกรโดยมอบหมาย คสช. สนับสนุนผ่านหน่วยงานของกองทัพในพื้นที่-ให้ มท.เร่งรัดจัดทำฐานข้อมูลแรงงานต่างด้าวให้ครบถ้วนครอบคลุมทุกพื้นที่

วันนี้ (23 ก.พ.58) เวลา 10.00 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล (กขน.) ครั้งที่ 1/2558 โดยมี หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม

ภายหลังการประชุม ร้อยเอก ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เผยถึงผลการประชุมว่า ที่ประชุมรับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล (กขน.) เพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อนงานสำคัญของรัฐบาลและประสานงานกับคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รองนายกรัฐมนตรีทั้ง 5 คนเป็นรองประธาน กรรมการประกอบด้วย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประธานสมาคมธนาคารไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ มีเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการและเลขานุการ โดย กขน. มีอำนาจหน้าที่ติดตามขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินการตามนโยบายที่สำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล แล้วรายงานผลการดำเนินการต่อนายกรัฐมนตรี เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ และคณะกรรมการอื่นมาชี้แจง ให้ข้อมูล และแสดงความคิดเห็นตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร รวมทั้งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ที่ปรึกษาคณะกรรมการ หรือคณะทำงาน เพื่อช่วยเหลือหรือปฏิบัติงานตามความเหมาะสม

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปถึงแนวทางการดำเนินงานร่วมกันของ 3 คณะกรรมการที่ได้มีการจัดตั้งขึ้นคือ 1. กขน. 2. คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล หรือ กขร. ที่มีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) เป็นประธาน และ 3. คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ กขย. ที่มี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองหัวหน้า คสช. เป็นประธาน ว่า ทั้ง 3 ส่วนจะทำงานสอดคล้องกัน โดย กขน. จะดูนโยบายรัฐบาลที่สำคัญเร่งด่วนเป็นอันดับแรก ยึดกรอบนโยบายรัฐบาล ขับเคลื่อนผ่านกลไกของรัฐบาลและภาคเอกชนที่เข้ามามีส่วนร่วมในคณะกรรมการ ส่วน กขร. จะเป็นการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งในเรื่องการขับเคลื่อน เร่งรัด การติดตามประเมินผลเสนอรายงานต่อคณะรัฐมนตรีทุกเดือน รวมทั้งกำหนดรูปแบบและจัดทำรายงานผลการดำเนินงานของคณะรัฐมนตรีเพื่อเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ และเผยแพร่ผลการดำเนินงานของคณะรัฐมนตรีต่อสาธารณชน ขณะที่ในส่วนของ กขย. จะติดตามประเมินผลการดำเนินงานในส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ของ คสช. โดย กขย. จะลงพื้นที่ไปถึงตัวผู้ปฏิบัติงาน ติดตามดูว่าการสั่งการต่าง ๆ ได้ลงไปถึงผู้ปฏิบัติหรือไม่ มีการติดขัดเพราะระบบราชการอย่างไร เพื่อจะได้ให้การช่วยเหลือ

พร้อมกันนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ที่ประชุมได้แต่งตั้งผู้ประสานงานบูรณาการการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลระดับกระทรวง หรือ ปขก. ที่จะทำหน้าที่ในส่วนของแต่ละกระทรวง ซึ่งแต่ละกระทรวงจะมอบหมายผู้แทน 1 คนซึ่งเป็นผู้ที่มีความสามารถในการตัดสินใจในเรื่องสำคัญระดับนโยบายได้ เพื่อมาทำหน้าที่ประสานงาน บูรณาการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลในประเด็นสำคัญเร่งด่วนลำดับแรก รวมทั้งหมด 38 ประเด็นการบูรณาการขับเคลื่อน เช่น เรื่องความมั่นคงด้านพลังงาน มีกระทรวงพลังงานเป็นเจ้าภาพหลัก โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง มีกระทรวงคมนาคมเป็นเจ้าภาพหลัก การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภค การบริหารจัดการที่ดินเพื่อลดความเหลือมล้ำ มีกระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพหลัก การจัดทำฐานข้อมูลกลางของประเทศ มีกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นเจ้าภาพหลัก นวัตกรรม การวิจัยและพัฒนา มีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นเจ้าภาพหลัก การผลักดันเกษตรโซนนิ่ง การช่วยเหลือเกษตรกรและดูแลราคาพืชผลเกษตร การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและการพัฒนาระบบชลประทาน มีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นเจ้าภาพหลัก เป็นต้น ทั้งนี้ รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงจะมีการแต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนงานของแต่ละกระทรวงขึ้นมา เพื่อรองรับการปฏิบัติงานของผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ประสานงานบูรณาการการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลระดับกระทรวงดังกล่าว โดยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจะเป็นหน่วยงานกลางประสานรวบรวมข้อมูลความคิดเห็นและรายงานผลความคืบหน้าดังกล่าว

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้ กขน. ดำเนินการขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายสำคัญและเร่งด่วนใน 5 ประเด็นคือ 1) ด้านความมั่นคง การพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา/ปัญหาการค้ามนุษย์/ปัญหาแรงงานต่างด้าว/การปฏิรูปที่ดิน/การแก้ไขปัญหาขยะ/หนี้นอกระบบ/การรักษาความสงบ/การป้องกันและปราบปรามการหมิ่นสถาบัน/การจัดระเบียบสังคม 2) ด้านเศรษฐกิจ การพัฒนาระบบราง/การบริหารจัดการน้ำ/Zoning ภาคเกษตร/ เขตเศรษฐกิจพิเศษ/การแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรและช่วยเหลือเกษตรกร/การแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาล/SMEs 3) ด้านสังคม วิจัย จิตวิทยา การพัฒนาระบบการศึกษา/การพัฒนาระบบสาธารณสุข/การพัฒนาการวิจัยและพัฒนา 4) ด้านกฎหมายและการป้องกันการทุจริต การต่อต้านและป้องกันการทุจริต/การเร่งรัดการพิจารณากฎหมายที่สำคัญ/การติดตามการดำเนินงานของ สนช. สปช. และคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ/สัญญาคุณธรรม/ระบบการประเมินการทำงานของข้าราชการทุกระดับ 5) ด้านการต่างประเทศ มาตรการเพื่อรองรับการเข้าสู่ AEC/การติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามข้อตกลงระหว่างประเทศ/สิทธิมนุษยชน

ร้อยเอก ยงยุทธ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังรับทราบการรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและยุทธศาสตร์คณะรักษาความสงบแห่งชาติชุดต่าง ๆ โดย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ผู้แทน กขย. ได้รายงานความคืบหน้าผลการดำเนินงานว่า กขย. ได้มีการประชุมเพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพิเศษ โดยได้เร่งรัดการดำเนินงานในทุกมิติ การแก้ไขยาเสพติดและความมั่นคงสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้ทั้งหมด ในส่วนของการพัฒนาการศึกษา กขย. เห็นว่าจะต้องส่งเสริมเรื่องการประสานงานและบูรณาการการพัฒนาการศึกษาให้มากขึ้น โดยเฉพาะความเชื่อมโยงระหว่างการศึกษาและการวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นอกจากนี้ กขย. ได้ขับเคลื่อนการช่วยเหลือเกษตรกร สามารถเร่งรัดผลการเบิกจ่ายเงินสนับสนุนปัจจัยการผลิตแก่เกษตรกร แต่การดำเนินการด้านอื่น ๆ ยังมีความล่าช้าอยู่ ซึ่งจะต้องเร่งรัดต่อไป ในส่วนของ กขร. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) ประธาน กขร. ได้รายงานความคืบหน้าผลการดำเนินงาน ว่า กขร. ติดตามนโยบายรัฐบาลและการปรองดองสมานฉันท์ และการปฏิรูปประเทศ ผู้แทนส่วนราชการต่าง ๆ มีความเข้าใจในการติดตามและขับเคลื่อนเป็นอย่างดี และ กขร. มีการติดตามขับเคลื่อนเรื่องสำคัญและรายงานผลเรื่องสำคัญอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ ประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ หรือ คตร. ได้รายงานความคืบหน้าผลการดำเนินงานว่า มีการดำเนินการอย่างได้ผลและเปิดโอกาสให้หน่วยงานผู้ถูกร้องเรียนมาชี้แจง โดย คตร. ได้ให้คำแนะนำในการแก้ไข รวมทั้งมีการชี้มูลในเรื่องที่มีความชัดเจนแล้ว

นอกจากนี้ กขน. เห็นชอบให้ประธานและฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการขับเคลื่อนชุดต่าง ๆ ได้แก่ กขน. กขร. กขย. คตร. และ ปขก. มีการประชุมร่วมกันทุก 1 เดือน และนำเสนอผลการดำเนินงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล (กขน.) ทราบไม่เกินวันที่ 5 ของทุกเดือน

ร้อยเอก ยงยุทธ กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการอื่น ๆ เพิ่มเติม ประกอบด้วย 1. การช่วยเหลือเกษตรกร โดยเฉพาะยางพาราให้รับซื้อจากเกษตรกรโดยตรง และมอบหมายให้ คสช. สนับสนุนผ่านหน่วยงานของกองทัพในพื้นที่ 2. การขับเคลื่อนการศึกษา ในระยะแรกให้เร่งรัดดำเนินการตามเป้าหมาย โดยเฉพาะการดำเนินการขับเคลื่อนการศึกษา 5 แท่ง (สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สภาการศึกษา สอศ. สพฐ. และ สกอ.) โดยให้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อขับเคลื่อนการศึกษาโดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน 3. การเร่งรัดด้านกระบวนการทุจริต ให้มีการดำเนินการให้ครบถ้วนและไม่เลือกปฏิบัติ และให้เร่งรัดการดำเนินการ 4. ด้านแรงงาน ด้านแรงงานต่างด้าวมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดการดำเนินงานให้ครอบคลุมทุกพื้นที่และจัดทำฐานข้อมูลให้ครบถ้วนด้านแรงงานผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์โดยเฉพาะประเด็น IUU และ Tip report (Trafficking in persons report) มอบหมายกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงนานาประเทศให้เข้าใจการดำเนินการของฝ่ายไทยว่ามีความตั้งใจและอยู่ระหว่างการดำเนินการอย่างเข้มงวด

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ