กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม รุกปรับโฉมอุตสาหกรรมแฟชั่นปี 58 ครบวงจร ชูแนวคิด “ดี สเปซ” (D Space) สร้างมูลค่าอุตสาหกรรม

ข่าวทั่วไป Wednesday March 11, 2015 13:46 —สำนักโฆษก

กรุงเทพฯ 9 มีนาคม 2558 – กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม รุกขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย ปี 58 สู่การเป็นที่ยอมรับในวงการแฟชั่นระดับอาเซียน ผ่านกลยุทธ์สร้างพื้นที่เพื่อส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแฟชั่นภายใต้แนวคิด “ดี สเปซ” (D Space) ดีไซน์ (Design) ดีเวลลอป (Developed) และดำเนินการโดย ดีไอพี (Department of Industrial Promotion : DIP) กลยุทธ์การพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นครบวงจรสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ (Value Creation) ตั้งแต่กระบวนการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การพัฒนาตราสินค้า การเชื่อมโยงสู่เครือข่าย (Supply Chain) ทั้งภาคการผลิตและธุรกิจ การต่อยอดสู่ช่องทางการค้า รวมทั้งการขยายโอกาสทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ผ่านกิจกรรม “ดี สเปซ” (D Space) : “Thailand Fashion Design Brands Developed by DIP” ภายใต้ 2 กิจกรรมสำคัญ ได้แก่ “กิจกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์และต่อยอดตราสินค้าสู่อาเซียน” และ “กิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในอุตสาหกรรมแฟชั่น”

ดร.อรรชกา สีบุญเรือง ปลัดกระทรวงอุตgสาหกรรม กล่าวว่า อุตสาหกรรมแฟชั่นเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะประเทศไทยมีความได้เปรียบในหลายด้าน ได้แก่ ทักษะฝีมือ โลจิสติกส์ความพร้อมด้านวัตถุดิบ ตลอดจนได้สะสมความเชี่ยวชาญด้านการผลิตมาอย่างยาวนาน จึงทำให้อุตสาหกรรมแฟชั่น ทั้ง 3 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เครื่องหนังและรองเท้า และ อัญมณีและเครื่องประดับ มีความโดดเด่นเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยในปี 2557 มีมูลค่าส่งออกต่อปีสูงกว่า 607,200 ล้านบาท และ ก่อให้เกิดการจ้างงาน รวมกว่า 2.2 ล้านคน กระทรวงอุตสาหกรรมจึงตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมแฟชั่น จึงได้ดำเนิน “โครงการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย” โดยดำเนินการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมแฟชั่น ทั้งด้านการเพิ่มผลิตภาพการผลิตและการพัฒนานวัตกรรมการออกแบบให้ตรงกับความต้องการ ตลาดเป้าหมาย สร้างเสริมปัจจัยที่จะก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มต่อสินค้าแฟชั่นแบรนด์ไทย ทั้งในเชิงการสร้างเอกลักษณ์ ของสินค้า สร้างการจดจำตราสินค้าให้แบรนด์ไทยสามารถแข่งขันได้ทั้งตลาด ในประเทศและต่างประเทศ

ดร.อรรชกา กล่าวต่อว่า จากที่ปัจจุบันอุตสาหกรรมแฟชั่นมีการแข่งขันสูงทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ฉะนั้นผู้ประกอบการไทยจึงจำเป็นต้องพัฒนาตนเอง โดยสิ่งสำคัญคือต้องทำให้สินค้านั้นเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายด้วยการสร้างตราสินค้าให้เป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับในวงการแฟชั่นและคนทั่วไป นอกจากนี้ คุณภาพของสินค้าแฟชั่น ก็เป็นสิ่งสำคัญที่บ่งชี้ถึงมาตรฐาน เอกลักษณ์ และคุณค่าของสินค้านั้น ๆ อย่างไรก็ดี การที่จะทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ ผู้ประกอบการจะต้องได้รับความรู้ ความเข้าใจ คำแนะนำและประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันในตลาดการค้า และยกระดับความสามารถในการกำหนดราคาให้สูงกว่าสินค้าประเภทเดียวกันที่ยังไม่มี ตราสินค้าถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value creation) ให้กับอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี

นายอาทิตย์ วุฒิคะโร อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า กสอ. ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการดำเนินกิจกรรมด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการต่อยอดตราสินค้าในอุตสาหกรรมแฟชั่น ซึ่งตรงกับความต้องการของกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เครื่องหนังและรองเท้า อัญมณีและเครื่องประดับ จึงได้จัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมผู้ประกอบการแต่ละวิสาหกิจให้ได้รับการ ต่อยอดสินค้าเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของตนเองให้เป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับในวงการแฟชั่นระดับอาเซียน ตามยุทธศาสตร์การส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรมให้เกิดการเชื่อมโยงกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อการแข่งขันในระดับสากล ผ่านกิจกรรม “Thailand Fashion Design Brands Developed by DIP” ภายใต้ “กิจกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์และต่อยอดตราสินค้า สู่อาเซียน” และ “กิจกรรม การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในอุตสาหกรรมแฟชั่น” ในกรอบแนวคิดหลัก ดีสเปซ (D Space) ซึ่งอักษร D ประกอบด้วย 1. การออกแบบ (Design) คือการออกแบบผลิตภัณฑ์ (สำเร็จรูป) ให้สอดรับกับแนวโน้มแฟชั่นและตรงตามความต้องการของตลาด และสร้างจุดขาย รวมทั้งสร้างสรรค์วัตถุดิบให้มีคุณภาพ มีความหลากหลายและมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตรงกับการนำไปผลิตผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป 2. การพัฒนา (Developed) คือการพัฒนาศักยภาพและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในอุตสาหกรรมแฟชั่น ทั้งในเรื่องบุคลากร นักออกแบบ กระบวนการผลิต และการนำนวัตกรรมมาใช้ และ 3. ดำเนินการอย่างบูรณาการ โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (Department of Industrial Promotion : DIP) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการสู่การพัฒนาเป็นศูนย์กลางแฟชั่นของอาเซียน

อย่างไรก็ตาม กิจกรรมดังกล่าวเป็นเสมือนการสร้างพื้นที่ในการพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่น ตั้งแต่กระบวนการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การพัฒนาตราสินค้าเชื่อมโยงสู่เครือข่าย (Supply Chain) ทั้งภาคการผลิตและธุรกิจ ตลอดจนต่อยอดสู่ช่องทางการค้า รวมทั้งการขยายโอกาสทางการตลาดทั้งใน และต่างประเทศ เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์และตราสินค้าแฟชั่นไทยสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ (Value Creation) โดยคาดหวังให้ผู้ประกอบการ ทั้ง 3 กลุ่มอุตสาหกรรมสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และต่อยอดตราสินค้าให้มีมูลค่าเพิ่ม หรือแนวความคิดการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ตลอดจนสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และตราสินค้าเผยแพร่ให้เป็นที่รับรู้ในตลาดอาเซียนโดยตั้งเป้าส่งเสริมให้เกิดการใช้วัตถุดิบที่พัฒนาขึ้นในประเทศมากยิ่งขึ้น มีการจับจ่ายใช้สอยผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบรนด์ไทยเพิ่มขึ้น ทั้งจากความต้องการภายในประเทศและจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศ มีการสั่งซื้อหรือส่งออกวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปจากอุตสาหกรรมแฟชั่นไปต่างประเทศเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีการยอมรับแบรนด์ไทยในภูมิภาคอาเซียนและภูมิภาคอื่น ๆ เป็นต้น ทั้งนี้ คาดว่าในปี 2558 จะมีผู้เข้าร่วมโครงการไม่น้อยกว่า 1,900 คน และกิจการไม่น้อยกว่า 370 กิจการ เข้าร่วมในกิจกรรมการพัฒนาต่าง ๆ นายอาทิตย์ กล่าว

กระทรวงอุตสาหกรรม จึงมอบหมายให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จัดงานแถลงข่าวความพร้อมในการจัดกิจกรรม “Thailand Fashion Design Brands Developed by DIP” ในวันจันทร์ที่ 9 มีนาคม 2558 ณ ลานคริสตัล คอร์ท ชั้น เอ็ม ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยมีผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอุตสาหกรรมแฟชั่นร่วมให้ความรู้ในงานเสวนา “Thailand Fashion Industry” “ASEAN NEW PERSPECTIVE” โดยคุณสมชัย ส่งวัฒนา จากแบรนด์ “FLY NOW” และแฟชั่นโชว์สุดอลังการจากนักแสดง-นางแบบชื่อดัง คุณแพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ โดยมีผู้ประกอบการแบรนด์แฟชั่นและประชาชนทั่วไปร่วมงานเป็นจำนวนมาก

สำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแฟชั่นที่สนใจเข้ารับการส่งเสริมและพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่กิจการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา 1 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทร. 0 2367 8219, 0 2367 8221, 0 2367 8290 และติดตามข่าวสาร กิจกรรม โครงการต่าง ๆ ได้ที่ www.dip.go.th หรือ www.facebook.com/dip.pr หรือ Twitter : DIPThailand

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ