รมว.วิทย์ฯ เยี่ยมชมสถานีวิจัยกาแฟอราบิก้าหวังช่วยเกษตรกรชาวเขา เพิ่มมูลค่ากาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจรมว.วิทย์ฯ เยี่ยมชมสถานีวิจัยกาแฟอราบิก้าหวังช่วยเกษตรกรชาวเขา เพิ่มมูลค่ากาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจ

ข่าวทั่วไป Monday March 16, 2015 16:11 —สำนักโฆษก

วันนี้ 14 มีนาคม 2558 ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และคณะ นำสื่อมวลชนเดินทางเยี่ยมชมสถานีวิจัยโครงการหลวงแม่หลอด เพื่อติดตามงานสถานีวิจัยอาราบิก้าแม่หลอด พร้อมเยี่ยมชมการสาธิตส่งเสริมการปลูกกาแฟใต้ร่มเงาป่าธรรมชาติ การแปรรูปกาแฟ ณ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงป่าเมี่ยง และ เยี่ยมชมศูนย์สาธิตส่งเสริมการผลิตและแปรรูปกาแฟ ณ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก

ดร.พิเชฐฯ เปิดเผยว่า รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญกับการช่วยเหลือเกษตรกรชาวเขาด้วยการพัฒนาส่งเสริมการปลูกกาแฟอราบิก้าในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยนับเป็นประเทศที่สามารถปลูกกาแฟได้รองจากอินโดนีเซีย และเวียดนาม ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอยู่ในลำดับที่ 19 ของโลก โดยมีเพียงสองสายพันธุ์เท่านั้นสามารถปลูกได้ในประเทศไทยและมีคุณค่าทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดซึ่งได้แก่ พันธุ์อราบิก้า ที่เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่ภาคเหนือ และโรบัสต้าเหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งภายหลังจากนายกรัฐมนตรีได้เฝ้ารับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสที่ท่านทรงงานในเขตพื้นที่โครงการหลวง จึงได้สั่งการให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เพื่อติดตามกระบวนการปลูก การพัฒนาสายพันธุ์ และรับฟังปัญหาของการปลูกกาแฟอราบิก้าในเขตพื้นที่ภาคเหนือเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวเขาให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและหันมาปลูกกาแฟ พร้อมเพิ่มคุณภาพและผลผลิตทางเศรษฐกิจให้กาแฟอราบิก้าส่งออกได้มากยิ่งขึ้น

ภายหลังการลงพื้นที่สถานีวิจัยโครงการหลวงต่างๆ พบว่าปัญหาของการปลูกกาแฟอาราบิก้ามีการแพร่ระบาดของมอด โรคราสนิม ปัญหาโรคพืชและการผสมสายพันธุ์ต่างๆ ซึ่งกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) มีบทบาทในการนำความรู้จากนักวิชาการมาเผยแพร่เพื่อพัฒนาการปลูก พัฒนาสายพันธุ์ พร้อมกับได้ทำการศึกษาวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและช่วยแก้ปัญหาได้อย่างดีมาโดยตลอด ซึ่งงานวิจัยของไทยมีจุดเด่นที่สามารถรักษาโรคราสนิม รักษาการแพร่ระบาดของมอดได้ ทั้งนี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จะนำความรู้ด้าน วทน. มาช่วยพัฒนาสายพันธุ์กาแฟในระดับโมเลกุลให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น คล้ายกับการวิจัยพัฒนาสายพันธุ์ข้าว เพื่อทำให้กาแฟอราบิก้ามีการพัฒนาปรับปรุงให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานการผลิต GMP การสร้างแบรนด์ที่ชัดเจน การปรับปรุงด้านการตลาด การบริหารจัดการแรงงานและกระบวนการปลูกกาแฟ ซึ่งกระบวนการพัฒนาต่างๆ ต้องอาศัยความร่วมมือกับหลายๆ หน่วยงานทั้งกระทรวงวิทย์ฯ กระทรวงเกษตร นักวิจัยมหาวิทยาลัย และภาคเอกชน

อย่างไรก็ตาม การปลูกกาแฟอราบิก้าในเขตพื้นที่ภาคเหนือยังมีความจำเป็นต้องอาศัยงานวิจัยอย่างต่อเนื่องเพื่อการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพให้ดีขึ้น โดยเฉพาะการปรับปรุงและคัดเลือกสายพันธุ์เพื่อให้ได้พันธุ์ที่มีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมบนพื้นที่ของประเทศไทย ส่งผลให้การปลูกกาแฟมีคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาด ชาวบ้านมีความรู้ด้านการป้องกันการกำจัดโรคและแมลง การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว การแปรรูปผลผลิต ตลอดจนการศึกษาและประเมินสภาพพื้นที่การเกษตร สภาพสังคมและเศรษฐกิจของชาวไทยในภาคเหนือ รวมถึงการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและป่าต้นน้ำลำธาร เพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนและเกิดความยั่งยืนต่อไป

นอกจากนี้ ดร.พิเชฐฯ ได้เดินทางไปเยี่ยมชมโรงไฟฟ้าพลังน้ำหมู่บ้านแม่กำปอง ต.ห้วยแก้ว กิ่งอำเภอแม่ออน จ.เชียงใหม่ เพื่อศึกษาการบริหารจัดการไฟฟ้าของชุมชนจากเขื่อนกั้นน้ำขนาดเล็กที่ผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าใช้งานได้เองภายในหมู่บ้าน

ข่าวโดย : นางสาวนีรนุช ตามศักดิ์

ภาพข่าวและวีดิโอโดย : นางสาวพจนพร แสงสว่าง, นายรัฐพล หงสไกร

ประสานงานได้ที่ : กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3727 - 3732 โทรสาร 0 2333 3834

อีเมลล์ : pr@most.go.th

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ