นายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2558

ข่าวทั่วไป Thursday March 19, 2015 13:50 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2558 ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการจัดสรรที่ดินทำกินให้ชุมชน ย้ำจัดรูปแบบการเข้าใช้ประโยชน์ที่ดินและป่าไม้ต้องควบคู่กัน รมว.ทส.ระบุเตรียมพื้นที่ 7,000 ไร่ ชุมชนบ้านแม่ทา อ.แม่ออน เชียงใหม่ เป็นพื้นที่นำร่องพื้นที่แรกจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ระยะที่ 1

วันนี้ (19 มี.ค.58) เวลา 10.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ครั้งที่ 1/2558 โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม

ภายหลังการประชุม พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้แถลงผลการประชุมที่ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร สรุปสาระสำคัญ ว่า ที่ประชุม คทช. ได้พิจารณาความคืบหน้าในการดำเนินการจัดสรรที่ดินทำกินให้กับราษฎร โดยหลังจากที่คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน (อนุกรรมการคณะที่ 1) ที่รับผิดชอบโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ส่งมอบที่ดินให้กับคณะอนุกรรมการจัดที่ดิน (อนุกรรมการคณะที่ 2) ที่รับผิดชอบโดยกระทรวงมหาดไทยไปแล้วรวม 50,000 ไร่เศษ ความคืบหน้าขณะนี้ คณะอนุกรรมการจัดที่ดินร่วมกับคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ (อนุกรรมการคณะที่ 3) ที่รับผิดชอบโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สามารถที่จะพิจารณาเตรียมพื้นที่ที่จะดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรมภายในไม่เกินเดือนเมษายน 2558 โดยพื้นที่นำร่องที่จะนำไปจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ระยะที่ 1 พื้นที่แรกคือพื้นที่ชุมชนบ้านแม่ทา อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่ที่ล้อมรอบภูเขาและป่าไม้ มีเนื้อที่ประมาณ 6,000-7,000 ไร่ ราษฎรอยู่อาศัย 2,000 ครอบครัว พร้อมกันนี้คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน (อนุกรรมการคณะที่ 1) ได้เสนอพื้นที่เป้าหมายการดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ระยะที่ 2 ปี 2558 ให้ที่ประชุมพิจารณา โดยเป็นเนื้อที่ของกรมป่าไม้ประมาณ 51,000 ไร่ และเป็นเนื้อที่ สปก. ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อีก 5,000 ไร่ เป็นพื้นที่ว่างเปล่าไม่มีผู้บุกรุกอยู่เดิม ซึ่งวันนี้ที่ประชุมได้อนุมัติพื้นที่เป้าหมายตามที่เสนอแล้ว

พลเอก ดาว์พงษ์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุม คทช. ได้อนุมัติใช้เงินงบกลาง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 รวมประมาณ 65 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของ คทช. ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นการปรับการใช้งบประมาณของแต่ละกระทรวงที่มีอยู่เพื่อมาทำงานนี้ โดยได้ของบประมาณใหม่เฉพาะในส่วนของงบอำนวยการเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการประชุมและการไปราชการของ คทช. และคณะอนุกรรมการทั้ง 3 คณะ และคณะกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด

พลเอก ดาว์พงษ์ กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้ย้ำในที่ประชุมว่า การจัดรูปแบบการเข้าใช้ประโยชน์ที่ดินและป่าไม้จะต้องควบคู่กันไป โดยพื้นที่ที่เป็นหมู่บ้านก็จัดให้ราษฎรไปอยู่ ส่วนพื้นที่ติดกับหมู่บ้านให้หาพื้นที่ทำป่าเศรษฐกิจให้ราษฎร สำหรับปลูกไม้ไผ่ ไม้โตเร็ว ให้มีคำแนะนำจากกรมป่าไม้ให้มีวงรอบในการปลูก และพื้นที่ถัดจากป่าเศรษฐกิจเป็นป่าไม้ชุมชน ป่าไม้เดิมที่ห้ามตัดไม้ ซึ่งราษฎรจะร่วมกับเจ้าหน้าที่ในการเข้าไปดูแลรักษาป่า และส่วนที่ลึกเข้าไปเป็นพื้นที่ป่าไม้สมบูรณ์ที่ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปยุ่ง อย่างไรก็ตาม เมื่อรัฐบาลได้จัดที่ดินให้กับราษฎรแล้ว ต้องขอความร่วมมือจากราษฎรที่ได้พื้นที่ทำกินว่าต้องช่วยรัฐบาลดูแลพื้นที่ป่าเศรษฐกิจ ป่าชุมชน พื้นที่ป่าที่ใกล้เคียงกับพื้นที่ที่ได้มอบให้ รวมทั้งต้องช่วยป้องกันไฟป่าและดูแลรักษาป่าไม้ ซึ่งจะมีการประเมินผลติดตามด้วย โดยในส่วนของโครงการแรกที่พื้นที่ชุมชนบ้านแม่ทา อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ จะขอเวลาจากนายกรัฐมนตรีเพื่อให้นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปพื้นที่จริง ซึ่งเมื่อถึงวันนั้นจะได้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น

นอกจากนี้ พลเอก ดาว์พงษ์ กล่าวว่า ในส่วนของการประเมินผลติดตามไม่ได้หมายความว่าหากประเมินผลแล้วไม่ผ่านแล้วจะไล่ออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นโครงการแรก ซึ่งส่วนตัวแล้วมั่นใจว่าราษฎรมีจิตสำนึก หากไปทำอะไรที่รุนแรงอาจจะกระทบกับความรู้สึกได้ ตอนนี้จะต้องมีความไว้วางใจกันก่อน ส่วนจะมีบทลงโทษประชาชนที่ไม่ดูแลพื้นที่ที่จัดสรรให้หรือไม่นั้น ไม่ถึงกับมีบทลงโทษ แต่ได้มีการคิดอย่างรอบคอบแล้วว่าจะต้องมีการประเมิน ซึ่งแนวทางการประเมินอาจจะรวมความรับผิดชอบการเป็นครอบครัว มิฉะนั้นคนในชุมชนก็จะเกี่ยงกันดูแล จึงต้องใช้มาตรการทางสังคมมาดูแลกันเอง ส่วนรูปแบบที่ดินที่มีการจัดให้ประชาชนนั้นนายกรัฐมนตรีย้ำว่าถ้าเป็นพื้นที่ที่มีการบุกรุกปลูกบ้านและใช้ทำมาหากินอยู่แล้ว ก็จะไม่มีการโยกย้ายราษฎรออกมาแต่จะมีการจัดระเบียบในรูปแบบสหกรณ์ แต่ในส่วนที่ดินที่ว่างเปล่านายกรัฐมนตรีย้ำว่าให้เป็นพื้นที่อยู่อาศัย และพื้นที่โดยรอบให้เป็นพื้นที่ทำกิน เพราะจะทำให้สามารถดูแลโครงสร้างพื้นที่ได้ง่ายขึ้น ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับกระทรวงมหาดไทยกำลังดำเนินการอยู่

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ