รมว.พม. เร่งบูรณาการหาแนวทางช่วยเหลือแรงงานประมงวอนขอกลับบ้านที่เกาะอัมบน ประเทศอินโดนีเซีย

ข่าวทั่วไป Thursday March 19, 2015 17:49 —สำนักโฆษก

วันนี้ (๑๙ มี.ค.๕๘) เวลา ๐๘.๓๐ น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.)ครั้งที่ ๑๒๓/๕๗-๕๘ เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขและป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ (Anti Human Trafficking Network-ATN) และศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือลูกเรือประมง (Seafarers Action Center-SAC) ยื่นหนังสือเปิดผนึกถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการช่วยเหลือแรงงานที่ตกเรือและประสบความทุกข์ยาก รวมถึงคนที่ถูกนายหน้าหลอกลวงมาทำงานเป็นลูกเรือประมงที่เกาะอัมบน ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีทั้งชาวไทย เมียนมาร์ กัมพูชา และลาว โดยพบว่าลูกเรือส่วนใหญ่ไม่มีเอกสารแสดงตนที่ถูกต้อง เนื่องจากถูกปลอมแปลงเอกสารลูกเรือและถูกยึดเอกสารไว้ ทำให้ไม่สามารถจัดการเรื่องเดินทางกลับประเทศได้ จึงขอให้รัฐบาลจัดชุดเฉพาะกิจมาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ตนได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม โดยมอบหมายให้ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ดำเนินการประสานหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันหาแนวทางเร่งช่วยเหลือแรงงานดังกล่าว

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า จากรายงานของศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC กรณีเด็กกัมพูชา ๔ คน เป็นเด็กหญิงอายุ ๗ ปี ๒ คน อายุ ๑๓ ปี ๑ คน และเด็กชายอายุ ๑๐ ปี ๑ คน มีพฤติกรรมขอทาน หน้าบริเวณถนนสุขุมวิทซอย ๑๓-๑๕ พบว่าเด็กทุกคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย ไม่มีเอกสารหลักฐานและไม่มีผู้แสดงตัวเป็นผู้ปกครองนั้นกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบรายละเอียดและดำเนินการช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยได้รับเด็กหญิงเข้าดูแลในบ้านพักเด็กและครอบครัว ส่วนเด็กชายได้เข้ารับการดูแลในสถานแรกรับเด็กชายปากเกร็ด (บ้านภูมิเวท)เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพเบื้องต้นและติดตามครอบครัวของเด็ก ทั้งนี้ ตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวและส่งเด็กกลับประเทศภูมิลำเนาต่อไป

"กรณีพ่อเลี้ยง อายุ ๔๓ ปี ข่มขืนกระทำชำเราลูกเลี้ยงและเพื่อน วัย ๑๓ ปี นานกว่า ๔ ปี โดยข่มขู่จะฆ่า ห้ามไปบอกคนอื่น หลังตรวจร่างกายพบมีร่องรอยถูกละเมิดทางเพศจริง ที่จังหวัดสมุทรปราการ ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรปราการ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมเร่งช่วยเหลือในเบื้องต้น รวมทั้งเยียวยาสภาพจิตใจเด็กหญิงผู้เสียหายอย่างเร่งด่วน” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ