“รมช.สธ.”นำทีมผู้บริหาร หามาตรการลดปัญหาหมอกควันในภาคเหนือ พร้อมใช้ทีมหมอครอบครัวเป็นกลไกสำคัญ

ข่าวทั่วไป Saturday March 21, 2015 15:40 —สำนักโฆษก

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่พร้อมผู้บริหาร ร่วมหาแนวทางจัดการปัญหาหมอกควันที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน เพื่อเป็นข้อมูลในการช่วยเหลือ พร้อมดันทีมหมอครอบครัวร่วมเฝ้าระวังและเยี่ยมผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง หากหมอกควันเกินค่ามาตรฐานมากประชาชนควรอยู่ในบ้าน หลีกเลี่ยงทำกิจกรรม หรือออกกำลังกายนอกบ้าน

วันนี้(21 มีนาคม 2558) นายแพทย์สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมผู้บริหาร ติดตามและรับฟังสถานการณ์ปัญหาหมอกควัน ในพื้นที่ภาคเหนือรับฟังการแก้ไขปัญหาหมอกควันของชุมชน ที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่10เชียงใหม่โรงพยาบาลนครพิงค์ และที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ และให้สัมภาษณ์ว่า จากข้อมูลการเฝ้าระวังฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน (PM10) ของกรมควบคุมมลพิษ ใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ที่มีค่าเกินมาตรฐานคือ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรทุกจังหวัด ตลอด 1 สัปดาห์ส่งผลกระทบต่อสุขภาพชัดเจน โดยเฉพาะผู้ป่วย 4 กลุ่มเสี่ยง คือโรคหัวใจและหลอดเลือดทุกชนิด ตาแดงตาอักเสบ และผิวหนังอักเสบ อาจมีอาการกำเริบได้ง่าย หากมีอาการผิดปกติ ให้รับไปพบแพทย์

นายแพทย์สมศักดิ์กล่าวว่า ได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 เชียงใหม่ และสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด ประกอบด้วยจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน เฝ้าระวังผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง เพื่อให้ได้รับบริการอย่างทั่วถึง จัดเตรียมทีมสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว ลงพื้นที่กรณีเหตุการณ์ผิดปกติ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ สำรองหน้ากากอนามัยเพิ่มอีก 205,000 ชิ้นพร้อมแจกจ่ายหากคุณภาพอากาศยังไม่ปลอดภัย รวมทั้งให้ความรู้แก่ประชาชนทุกช่องทาง ในช่วงปริมาณฝุ่นสูงเน้น 3 มาตรการได้แก่ 1.การป้องกันตัวเอง หลีกเลี่ยงเข้าพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุม ใช้หน้ากากอนามัยหรือใช้ผ้าปิดจมูก ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด 2.จัดจุดปลอดภัย(Clean air) สำหรับเด็ก ผู้สูงอายุ และกลุ่มเสี่ยง เช่นหญิงตั้งครรภ์ โรคภูมิแพ้ หอบหืด ให้เข้าไปอยู่อาศัยชั่วคราวเพื่อลดผลกระทบ และ3.ให้ติดตามข่าวสารและปฏิบัติตามข้อแนะนำจากทางราชการอย่างใกล้ชิด หากเจ็บป่วยสามารถโทรปรึกษาทีมหมอครอบครัวและอสม.ในพื้นที่ได้ อย่างไรก็ตาม ต้องขอความร่วมทุกฝ่ายเร่งช่วยกันดับไฟ ลดการเผาป่า ขยะ เพื่อลดควันไฟ ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนทั้งระยะสั้น และอาจส่งผลระยะยาวโดยเฉพาะที่ปอดได้

นายแพทย์สมศักดิ์ ได้กล่าวชื่นชมเทศบาลตำบลหนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ที่สามารถดำเนินการลดปัญหาหมอกควันในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี โดยร่วมมือกับชุมชน หน่วยงานราชการ โรงพยาบาล ด้วยการจัดทำเวทีประชาคมหมู่บ้าน ร่วมรณรงค์งดเผาฟาง และตอซังพืช ย่อยกิ่งไม้ ใบไม้ทำปุ๋ยหมัก ลดการเผาในชุมชน มีการจัดทำห้องอากาศสะอาด กรณีภาวะฉุกเฉินที่มีปัญหาหมอกควันเกินค่ามาตรฐานมากให้ประชาชนได้อพยพมาอาศัย พร้อมให้มีการเปิดละอองน้ำ รดน้ำในพื้นที่ เพื่อช่วยลดปัญหาหมอกควัน ซึ่งทำให้ลดปัญหาแสบตา เจ็บคอ ของคนในพื้นที่ได้ ซึ่งเป็นแบบอย่างที่องค์กรส่วนท้องถิ่นอื่นๆ นำไปเป็นแบบอย่างต่อไป

ทางด้านนายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า หากระดับหมอกควันอยู่ในระดับอันตราย(สีแดง) มีระดับฝุ่นมากกว่า 420 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มีผลกระทบต่อสุขภาพต่อประชาชนทั่วไป และประชาชนกลุ่มเสี่ยงมีโอกาสหัวใจวายเฉียบพลัน หรือหากได้รับเป็นเวลานาน อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งปอด ซึ่งกรมอนามัย กรมควบคุมโรค และกรมควบคุมมลพิษ ได้จัดทำคำแนะนำสำหรับประชาชนในการป้องกันสุขภาพ ตามระดับผลกระทบต่างๆ เพื่อสื่อสารให้ประชาชนรับทราบ นอกจากนี้ควรงดกิจกรรมภายนอกอาคารทุกประเภท ควรอยู่ในอาคารหรือห้องที่สะอาด ปิดศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และโรงเรียนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควัน ทั้งนี้ หากสถานการณ์ยังมีความรุนแรงต่อเนื่อง แนะนำให้อพยพประชาชนไปยังสถานที่ที่มีห้องอากาศสะอาดที่ได้จัดเตรียมไว้

ด้านนายแพทย์ไพศาล ธัญญาวินิชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์หมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่ มีประชาชนเจ็บป่วย เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือดอาการกำเริบ แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก ตาแดง ผื่นคัน รับบริการในโรงพยาบาล 24 แห่ง จำนวนประมาณ 2,000-3,000 รายต่อวัน แต่ไม่มีรายงานอาการรุนแรง ได้ให้โรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ ติดตามสถานการณ์หมอกควัน อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมยา และเวชภัณฑ์ พร้อมให้พร้อมบริการประชาชน ขณะนี้ได้แจกหน้ากากอนามัยสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ไปแล้ว 130,000 ชิ้น สำรองไว้อีก 100,000 ชิ้น

21 มีนาคม 2558

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ