กระทรวงเกษตรขานรับนโยบายส่งเสริมตลาดเกษตรกร มุ่งสู่การสร้างตลาดคุณภาพเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วันที่ 14 เมษายน 2558 ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขานรับนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำตลาดเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย ส่งเสริมตลาดดังกล่าวให้มีคุณภาพมาตรฐาน เน้นการเป็นช่องทางให้เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยนำสินค้ามาขายด้วยตนเอง ไม่มีการสวมรอยโดยพ่อค้าคนกลาง พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวของพื้นที่นั้นต่อไป

ทั้งนี้ รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำโครงการตลาดเกษตรกรขึ้นในทุกจังหวัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกษตรกรองค์กรเกษตรกร และผู้ผลิต ได้จำหน่ายผลิตผลและผลิตภัณฑ์โดยตรงให้กับผู้บริโภคในเขตเมือง มุ่งให้ผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าที่มีคุณภาพและความปลอดภัยที่ผ่านการรับรองโดยระบบต่างๆ เช่น เกษตรอินทรีย์ สินค้าปลอดภัย (GAP GMP) รวมทั้งให้ภาคเอกชนในจังหวัดได้มีโอกาสร่วมมือจัดตลาดเกษตรกรเพื่อประโยชน์ของชุมชนส่วนรวม ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินงานของรัฐบาลตามนโยบายที่ 3 จากทั้งหมด 11 นโยบายที่รัฐบาลได้แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คือ การลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เริ่มดำเนินโครงการตลาดเกษตรกรตั้งแต่เดือนธันวาคม 2557 เป็นต้นมา อย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง รวม 77 จังหวัด 86 แห่ง ส่วนใหญ่ สินค้าที่นำมาขายเป็นสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐาน ได้รับการรับรองจากหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และก่อให้เกิดมูลค่าการซื้อ-ขายสินค้าเกษตรผ่านตลาด รวม 6,504,982บาท ผลการประเมินโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พบว่า เกษตรกร/วิสาหกิจชุมชน/สหกรณ์การเกษตรเข้าร่วมขายสินค้าคิดเป็นร้อยละ 86 สินค้าเกษตรที่นำมาขายส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทพืชผัก ผลไม้ ร้อยละ 36 สินค้าแปรรูป ร้อยละ 28 และข้าว ร้อยละ 21 ทั้งนี้ ร้อยละ 94 ของจำนวนตลาด มีโลโก้หรือสัญลักษณ์โครงการตลาดเกษตรกรให้เห็นเด่นชัด ทำให้ผู้บริโภคและประชาชนในเขตเมืองจดจำสัญลักษณ์ได้ดี อีกทั้ง เกษตรกรและผู้บริโภคที่มาซื้อขายในตลาด มีการรวมกลุ่มเพื่อบริหารจัดการตลาดในรูปแบบการมีส่วนร่วม/คณะกรรมการ คิดเป็นร้อยละ 56 ของจำนวนตลาดที่เปิดทำการ

ทั้งนี้ เพื่อปรับปรุงตลาดเกษตรกรให้มีประสิทธิภาพและเป็นที่รู้จักโดยทั่วไป กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เล็งเห็นถึงการพัฒนาที่ต่อเนื่อง เช่น ด้านการประชาสัมพันธ์ การแบ่งโซนสินค้า การจัดเรียงสินค้า ซึ่งจะดำเนินการอย่างเร่งด่วนต่อไป

ที่มา: http://www.thaigov.go.th