นายกรัฐมนตรีรับทราบผลการประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหา IUU

ข่าวทั่วไป Thursday April 23, 2015 09:48 —สำนักโฆษก

วันนี้ เวลา 15.00 น. ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบผลการประชุมในวันนี้ของคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม (Illegal, Unreported and Unregulated Fishing) หรือ IUU Fishing ซึ่งพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน โดยมีหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน

คณะอนุกรรมการดังกล่าวได้พิจารณาถึงกรณีที่สหภาพยุโรป (อียู) ได้ออกใบเหลืองให้ประเทศไทยตามกฎระเบียบว่าด้วยการกระทำประมงผิดกฎหมาย ไม่รายงานและไร้การควบคุม เพื่อประสานการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา IUU ของไทยในลักษณะของการบูรณาการการทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยที่ประชุมได้มีข้อตกลงร่วมกันว่าจะเดินหน้าการทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งในส่วนของการปรับปรุงภาคประมงทั้งระบบ. และในส่วนของการชี้แจง สร้างความชัดเจนและให้ความมั่นใจกับทุกองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยทุกหน่วยงานได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะทำให้ระบบการประมงของประเทศมีสถานะที่ดีขึ้นให้ได้ภายในสามเดือนข้างหน้า ทั้งนี้ ทางการไทยยินดีที่จะร่วมมือกับอียูอย่างเต็มที่ โดยในการเดินทางเยือนประเทศไทยครั้งต่อไปของผู้แทนจากอียูในการตรวจสอบความคืบหน้าของไทยในการแก้ไขปัญหา IUU ในเดือนพฤษภาคมนี้ หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องไม่หนักใจและพร้อมชี้แจง สร้างความชัดเจนในทุกๆประเด็น

ทั้งนี้ ภายในสองสัปดาห์ข้างหน้า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเสนอแผนงานเร่งด่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาในภาคประมงต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในส่วนของการแก้ไขกฎหมาย โดย พรบ.ประมงที่ปรับปรุงขึ้นได้ผ่านการพิจารณาของ สนช.เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างรอการประกาศในราชกิจจานุเบกษา และจะมีผลบังคับใช้ภายใน 60 วันหลังจากนั้น ระหว่างนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการเพิ่มในอีกสองประเด็น คือ การยกร่างกฎหมายลูกเพื่อให้มีผลบังคับใช้ได้ในอีก 60 วัน และจะเสนอให้มีการออกพระราชกำหนดโดยเร็วที่สุดเพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาอื่นๆ ที่ พรบ.ประมงและกฎหมายลูกอาจจะยังไม่ครอบคลุม ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นว่า ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญเพื่อแก้ไขปัญหา IUU ในขณะนี้

พลเอกประวิตรยังได้สั่งการทุกหน่วยงานให้มีความเข้าใจที่ตรงกันถึงบทบาทหน้าที่ของตน และจะเรียกประชุมติดตามความคืบหน้าของงานในทุกๆสองสัปดาห์ โดยมอบหมายกระทรวงการต่างประเทศมีหน้าที่ในการชี้แจงกับอียู และกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศในการประสานความร่วมมือกับภาคเอกชนประมง

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันว่า รัฐบาลได้รับทราบปัญหาในกรณี IUU จากอียูมาเป็นระยะๆ และได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาภาคประมงอย่างเต็มที่ในทุกมิติและต่อเนื่องมาหลายเดือนแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่ออียูได้ให้ใบเหลืองแก่ไทยอย่างเป็นทางการ ไทยก็จะทำอย่างเต็มที่ต่อไปเพื่อแก้ไขปัญหาIUU พร้อมยินดีที่จะร่วมมือกับอียูในการดำเนินการในจุดที่ยังมีความบกพร่อง และมุ่งมั่นที่จะพลิกสถานการณ์นี้ให้เป็นโอกาสต่อประเทศเพื่อตอบโจทย์ทั้งต่อปัญหา IUU และต่อการสร้างเสริมความเชื่อมั่นของต่างประเทศที่มีต่อภาคประมงของไทย เพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้าประมงไทยให้ขยายตัวอย่างได้อย่างต่อเนื่องในวันข้างหน้า โดยทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน ต้องร่วมมือกันทำงานให้หนักขึ้น เพื่อให้เห็นผลที่เป็นที่ยอมรับในอีกสามเดือนข้างหน้า

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ