โครงการเงินกู้เพื่อการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบขนส่งทางถนน ระยะเร่งด่วน: มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2

ข่าวทั่วไป Monday April 20, 2015 13:40 —สำนักโฆษก

นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ในฐานะโฆษกสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2558 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ดำเนินโครงการเงินกู้เพื่อการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบขนส่งทางถนน ระยะเร่งด่วน : มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 โดยมีกรอบวงเงิน 78,294.85 ล้านบาท ประกอบด้วย

(1) โครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระยะเร่งด่วน วงเงินรวม 37,602.84 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำโดยการจัดทำระบบประปาหมู่บ้านและระบบชลประทานเพื่อกักเก็บน้ำ และการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยโดยการจัดทำระบบป้องกันน้ำท่วม พัฒนาระบบการระบายน้ำ ระบบผันน้ำ และระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงการศึกษาสำรวจและออกแบบโครงการขนาดใหญ่ที่จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปีงบประมาณ 2559

(2) โครงการพัฒนาระบบขนส่งทางถนนระยะเร่งด่วน วงเงินรวม 40,692.01 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงบูรณะทางหลวง การปรับปรุงทางจักรยาน การติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างและป้ายจำกัดความเร็ว แก้ไขจุดเสี่ยง การเพิ่มช่องจราจร การขยายเส้นทางการปรับปรุงถนนทางแยกและทางกลับรถ

การดำเนินโครงการดังกล่าวจะสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตได้ตามเป้าหมายผ่านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ ซึ่งโครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบขนส่งทางถนน ระยะเร่งด่วนเป็นโครงการขนาดกลางและขนาดเล็กมีพื้นที่ดำเนินการกระจายในภูมิภาคต่างๆ และมีความพร้อมสามารถดำเนินการได้ทันทีในปี 2558 โดยคาดว่าจะสามารถเบิกจ่ายเงินได้ 32,954.72 39,756.31 และ 5,583.82 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2558 2559 และ 2560 ตามลำดับ

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กระทรวงการคลังกู้เงินตราต่างประเทศเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในกรอบวงเงินไม่เกิน 80,000 ล้านบาท และถ้าภาวะตลาดการเงินในประเทศเอื้ออำนวยและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบการเงิน การคลัง และตลาดทุน กระทรวงการคลังสามารถกู้เป็นเงินบาทแทนการกู้เงินตราต่างประเทศได้

เพื่อเตรียมการจัดหาเงินกู้สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 กระทรวงการคลังได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาการจัดหาเงินกู้และบริหารเงินกู้ โดยคณะทำงานฯ ได้พิจารณาสภาวะของตลาดการเงินและสภาพคล่องทั้งต่างประเทศและในประเทศ ต้นทุนการกู้เงินของรัฐบาล และรูปแบบ การเบิกจ่ายเงินกู้แล้ว เห็นควรกู้เงินบาทจากสถาบันการเงินในประเทศแทนการกู้เงินตราต่างประเทศสำหรับใช้ในการดำเนินโครงการในไตรมาส 3 ของปีงบประมาณ 2558 (เมษายน – มิถุนายน 2558) โดยมีวงเงินกู้ 10,000 ล้านบาท สำหรับวงเงินกู้สำหรับไตรมาสที่ 4 (กรกฎาคม-กันยายน 2558) จะพิจารณาในโอกาสต่อไปเมื่อทราบผลการลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานเจ้าของโครงการ ซึ่งคาดว่าจะสามารถผูกพันสัญญาได้ครบถ้วนทุกโครงการไม่เกินเดือนมิถุนายน 2558

นอกจากนี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงบประมาณ และกรมบัญชีกลางได้จัดประชุมร่วมกับหน่วยงานเจ้าของโครงการภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2558 เพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินโครงการและการเบิกจ่ายเงินกู้ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 โดยได้เร่งรัดให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเร่งดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่ได้รับอนุมัติไว้เพื่อให้มีผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเร็วตามนโยบายของรัฐบาลโดยสำนักงบประมาณจะเร่งจัดสรรเงินกู้ให้แก่หน่วยงานเจ้าของโครงการผ่านระบบ e-Budgeting และหน่วยงานเจ้าของโครงการสามารถเบิกจ่ายเงินกู้ได้ทันทีตามงวดการเบิกจ่ายผ่านระบบ GFMIS ทั้งนี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะจะได้ติดตามการดำเนินโครงการและประเมินผลการดำเนินงานเพื่อรายงานคณะรัฐมนตรีเป็นระยะๆ ต่อไป

คณะโฆษกสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ

โทร. 02 265 8050 ต่อ 5505 และ 02 271 7999 ต่อ 5712, 5733

ที่มา : กระทรวงการคลัง

ผู้นำเสนอ : กลุ่มสารนิเทศการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ