กระทรวงคมนาคม ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีรถแท็กซี่สาธารณะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเรียกเหมาราคาค่าโดยสารจากผู้โดยสารชาวญี่ปุ่น

ข่าวทั่วไป Friday April 24, 2015 11:54 —สำนักโฆษก

ตามที่ นายโกกิ อากิ นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นได้โพสในเฟซบุ๊คเกี่ยวกับผู้ขับขี่รถแท็กซี่สาธารณะที่ให้บริการในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เรียกเหมาราคาค่าโดยสารจากเพื่อนของ นายโกกิ อากิ และสื่อต่าง ๆ ได้แก่ สื่อออนไลน์ต่าง ๆ เฟซบุ๊ค สถานีโทรทัศน์ ได้นำเสนอข่าวดังกล่าว เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2558 กระทรวงคมนาคมขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้

1. การดำเนินการในส่วนของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.)

ภายหลังจาก ทสภ. ได้รับทราบเหตุการณ์ดังกล่าว ทสภ. ได้ติดต่อประสานขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากคุณโกกิ อากิ ทันที เนื่องจากในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ทสภ. ไม่ได้รับรายงานว่า มีผู้โดยสารชาวญี่ปุ่นร้องเรียนการเรียกเหมาราคาของรถแท็กซี่อย่างใด ซึ่งคุณโกกิฯ ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการให้ข้อมูลเบื้องต้น ทสภ. ได้นำข้อมูลดังกล่าวมาตรวจสอบจากระบบเทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งใช้บริหารจัดคิวรถแท็กซี่ หรือ Taxi Kiosk และกล้องวงจรปิด พบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2558 เวลาประมาณ 19.29 น. โดยผู้โดยสารเดินทางมาพร้อมกัน 11 คน ได้ใช้บริการรถแท็กซี่แวน สีเขียว – เหลือง โตโยต้า อินโนว่า จำนวน 2 คัน ได้แก่

1) รถแท็กซี่หมายเลขทะเบียน มฎ 7111 ผู้ขับขี่ชื่อ นายนิรุตติ์ โพธิ์ศรี รับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น จำนวน 6 คน ไปส่งที่ถนนสุขุมวิท ซอย 15 โดยขอเรียกรับค่าโดยสารในราคาเหมาจ่าย รวมค่าทางด่วน เป็นเงิน 600 บาท

2) รถแท็กซี่หมายเลขทะเบียน มฎ 995 ผู้ขับขี่ชื่อ นายพนมยงค์ แก้วอามาตย์ รับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น จำนวน 5 คน ไปส่งปลายทางเดียวกัน และขอเรียกรับค่าโดยสารในราคาเหมาจ่าย รวมค่าทางด่วน เป็นเงิน 550 บาท

ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ทั้ง 2 คน อ้างว่า รถของตนเป็นแท็กซี่แวนขนาดใหญ่ ผู้โดยสารมีจำนวนมากและมีสัมภาระขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก ซึ่งในขณะนั้นผู้โดยสารได้ยินยอมที่จะไปในราคาดังกล่าว อย่างไรก็ตาม การเรียกรับค่าโดยสารแบบเหมาจ่ายของผู้ขับขี่รถแท็กซี่ทั้ง 2 คน ดังกล่าว ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและผิดระเบียบของ ทสภ. ที่กำหนดไว้ โดยห้ามไม่ให้เรียกเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่ปรากฏตามมาตรมิเตอร์ค่าโดยสาร ซึ่งความผิดดังกล่าว ทสภ. ได้กำหนดบทลงโทษให้พักการให้บริการในเขต ทสภ. ตลอดไป ซึ่งในกรณีนี้ ทสภ. ได้ยกเลิกรหัสการให้บริการของนายนิรุตติ์ โพธิ์ศรี และนายพนมยงค์ แก้วอามาตย์ พร้อมทั้งสั่งห้ามไม่ให้เข้ามาบริการรับผู้โดยสารที่ ทสภ. ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2558 เป็นต้นไป

2. การดำเนินการในส่วนของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.)

ขบ. ได้ตรวจสอบรถแท็กซี่ตามกรณีดังกล่าวแล้ว สรุปได้ดังนี้

1) รถหมายเลขทะเบียน มฎ 7111 กทม. มีนายอิทธิพล สมานสามัคคี เป็นผู้ครอบครอง และให้นายนิรุตติ์ โพธิ์ศรี เป็นผู้เช่าขับ มีใบอนุญาตผู้ขับรถทุกประเภทชนิดที่ 4 เลขที่ 00096/57 วันอนุญาต 30/03/2558 สิ้นอายุ 09/04/2560 ออกโดย สขพ.4

2) รถหมายเลขทะเบียน มฎ 995 กทม. มีนายพนมยงค์ แก้วอามาตย์ (เจ้าของรถและเป็นผู้ขับรถในวันเกิดเหตุ) มีใบอนุญาตรถยนต์สาธารณะ เลขที่ 57000731 วันอนุญาต 26/09/2550 สิ้นอายุ 30/05/2561 ออกโดย สขพ.4

ทั้งนี้ ขบ. ได้ดำเนินการตรวจสอบกับศูนย์รับเรื่องร้องเรียน 1584 ไม่พบว่า รถทั้ง 2 คัน เคยถูกร้องเรียนในกรณีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม มาตรการลงโทษผู้กระทำความผิดในกรณีที่พบการกระทำความผิดในลักษณะนี้ จะลงโทษผู้กระทำความผิดในอัตราโทษสูงสุดเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน จำนวน 1,000 บาท และพักใช้ใบอนุญาตมีกำหนด 30 วัน

ทสภ. มีหน้าที่ในการบริหารงานท่าอากาศยานให้เป็นไปตามมาตรฐานด้านความปลอดภัย รวมทั้งการจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ เพื่อรองรับการใช้บริการของผู้โดยสารให้ได้รับความสะดวกสบายมากที่สุด การจัดให้มีระบบขนส่งสาธารณะเพื่อรองรับการเดินทางเข้า – ออกของผู้โดยสารเป็นเรื่องสำคัญ ทสภ. จึงได้จัดให้มีบริการรถสาธารณะหลากหลายประเภท เช่น รถแท็กซี่สาธารณะ รถโดยสาร ขสมก. รถตู้โดยสาร ขสมก. รถไฟ Airport Rail Link รถลิมูซีน และรถเช่า เป็นต้น แต่การให้บริการรถยนต์รับจ้างสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ เป็นการบริการที่ ทอท. ไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการเอง ทสภ. จำเป็นต้องเปิดรับผู้ขับขี่รถแท็กซี่มาให้บริการให้เพียงพอกับความต้องการของผู้โดยสารวันละประมาณ 10,000 เที่ยว โดยให้รถแท็กซี่ที่ได้รับใบอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกอย่างถูกต้องตามกฏหมายสามารถให้บริการผู้โดยสารได้ อย่างไรก็ตาม ทสภ. ได้พยายามตรวจสอบอย่างเข้มงวด และลงโทษผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืนกฎหมายและระบียบของ ทอท. อย่างจริงจัง

กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ให้ความสำคัญในการกำหนดมาตรฐานและคุณภาพของผู้ขับขี่รถแท็กซี่ให้มีบริการที่ได้มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ทสภ. ได้ให้ความสำคัญกับการให้บริการในเรื่องดังกล่าว ซึ่งมุ่งเน้นการให้บริการผู้โดยสารที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย จึงได้กำหนดให้รถแท็กซี่ที่จะเข้ามาให้บริการที่ ทสภ. จะต้องลงทะเบียนชื่อผู้ขับขี่และเบอร์โทรศัพท์ โดยจะตรวจสอบว่าได้รับอนุญาตใบขับขี่สาธารณะอย่างถูกต้องตามกฏหมาย และสภาพรถได้มาตรฐานตามที่กำหนด พร้อมทั้งกำหนดบทลงโทษในกรณีที่ผู้ขับขี่กระทำความผิดไว้ด้วย

ปัจจุบัน ทสภ. มีรถแท็กซี่ขึ้นทะเบียนให้บริการจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 5,000 คัน ซึ่งถือว่าพอเพียงต่อการให้บริการ โดย ทสภ. ได้จัดจุดให้บริการรถแท็กซี่ที่อยู่ในการกำกับดูแลไว้ที่ชานชาลา ชั้น 1 บริเวณประตู 4 และประตู 7 รวมทั้งจัดให้มีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการบริหารจัดการคิวรถแท็กซี่ ซึ่งระบบดังกล่าวนอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดคิวบริการรถแท็กซี่สาธารณะให้มีระเบียบเรียบร้อยแล้ว ยังสามารถบันทึกข้อมูลการเข้า – ออกของรถแท็กซี่ที่มาให้บริการอย่างครบถ้วนตลอดเวลา เพื่อให้ง่ายต่อการติดตามในกรณีที่ผู้โดยสารหลงลืมทรัพย์สินไว้บนรถ หรือไม่ได้รับความสะดวกจากการใช้บริการในด้านต่าง ๆ เช่น การเรียกรับค่าโดยสารเป็นราคาเหมา ผู้ขับขี่ใช้วาจาไม่สุภาพ หรือสภาพรถไม่พร้อมให้บริการ ฯลฯ สามารถร้องเรียนได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่ง ทสภ. จะพิจารณาลงโทษตามฐานความผิดโดยการสั่งพักไม่ให้เข้ามาบริการรับผู้โดยสารตามระยะเวลาที่กำหนดหรือตลอดไป

นอกจากนี้ ทสภ. ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดทำวิดีทัศน์แนะนำการใช้บริการรถแท็กซี่ เผยแพร่บนหน้าจอโทรทัศน์ บริเวณสายพานรับกระเป๋า การทำป้ายประชาสัมพันธ์ แผ่นพับ ฯลฯ โดยเน้นย้ำให้ผู้โดยสารทราบว่า เมื่อใช้บริการรถแท็กซี่ ณ จุดให้บริการที่ ทสภ. จัดให้ ผู้โดยสารจะต้องเก็บ Slip ตั๋วโดยสารไว้กับตัว ห้ามให้ผู้ขับขี่รถแท็กซี่เก็บไปโดยเด็ดขาด หากผู้ใช้บริการท่านใดพบเห็น ผู้ขับขี่รถแท็กซี่รายใดกระทำไม่เหมาะสม เช่น ไม่เปิดมิเตอร์ การพูดจาแสดงอาการไม่สุภาพต่อผู้ใช้บริการ การปฏิเสธผู้โดยสาร หรือกรณีหลงลืมทรัพย์สินไว้บนรถแท็กซี่ สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่ AOT Contact Center โทร. 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง และหากเกิดกรณีอย่างเพื่อนชาวญี่ปุ่นของคุณโกกิ ผู้โดยสารสามารถลงจากรถและเดินมาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ ทสภ. ที่ปฏิบัติงานบริเวณตู้ Taxi Kiosk หรือเจ้าหน้าที่บริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ได้ทันที เพื่อจะได้ดำเนินการยกเลิกและเปลี่ยนรถแท็กซี่คันใหม่ให้ต่อไป

ที่มา, ผู้เสนอ : กองสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ