รัฐบาลจัดงานเทศกาลผักผลไม้ไทยคุณภาพ เพื่อเพิ่มรายได้และสร้างขวัญกำลังใจแก่ชาวเกษตรกร

ข่าวทั่วไป Wednesday May 6, 2015 15:53 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีเปิดงานเทศกาลผักผลไม้ไทยคุณภาพ เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรชาวสวนผลไม้ได้มีพื้นที่จัดแสดงและจำหน่ายผักผลไม้ไทย และเชื่อมโยงการตลาดจากผู้ผลิต คือ เกษตรกรไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง

วันนี้ (6 พฤษภาคม 2558) เวลา 17.00 น. ณ ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ริมคลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานเทศกาลผักผลไม้ไทยคุณภาพ โดยมี นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คณะรัฐมนตรี คณะทูตานุทูต ผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนกระทรวงฯ ประชาชาชนเข้าร่วมงานในครั้งนี้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวรายงานว่า ตามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ริเริ่มให้มีการจัดตลาดนัดสินค้าเกษตรและสินค้าชุมชนในโครงการ “ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม” ตั้งแต่เดือนมกราคม 2558 เป็นต้นมา และได้มอบหมายให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อจัดกิจกรรมบริเวณข้างทำเนียบรัฐบาล ริมคลองผดุงกรุงเกษม อย่างต่อเนื่องตลอดปี โดยในเดือนพฤษภาคมนี้ได้จัดให้มีงาน“เทศกาลผักผลไม้ไทยคุณภาพ” ระหว่างวันที่ 6-31 พฤษภาคม 2558 โดยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนจัดงานครั้งนี้ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรชาวสวนผลไม้ได้มีพื้นที่จัดแสดงและจำหน่ายผักผลไม้ไทย ซึ่งจะเป็นช่องทางสำคัญได้เชื่อมโยงการตลาดจากผู้ผลิต คือ เกษตรกรไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง ตลอดจนสามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าผักผลไม้ไทยอันจะเป็นแนวทางเพิ่มรายได้และสร้างขวัญกำลังใจแก่เกษตรกรชาวสวนผักและผลไม้ให้ผลิตสินค้าที่ดีมีคุณภาพ

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานว่า ประเทศไทยมีผักผลไม้หลากหลายชนิดที่มีชื่อเสียง มีรสชาติอร่อย เป็นที่นิยมชมชอบของทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ แต่ในบางฤดูกาล ผลผลิตทางการเกษตรออกสู่ท้องตลาดพร้อมกันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นชาวเกษตรกรต้องเผชิญกับปัญหาผลิตผลล้นตลาดและราคาสินค้าตกต่ำลงอย่างมาก นอกจากนี้ เกษตรกรเป็นรากฐานของบ้านเราหลายสิบล้านคน ซึ่งวันนี้ต้องนำเกษตรกรและแรงงานต่าง ๆ มาจดทะเบียนด้วย อีกทั้งประเทศเพื่อนบ้านยังมีปัญหาเหมือนกันต้องช่วยกันทำให้เศรษฐกิจของอาเซียนเข้มแข็งและต้องมีความเชื่อมโยงกันระหว่างผู้ส่งออกและผู้ผลิต ดังนั้น สิ่งที่ยังเป็นปัญหาคือ Demand และ Supply ความต้องการ การกำหนดทางตลาด การผลิต ซึ่งกระทรวงเกษตร กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพาณิชย์ จะต้องร่วมมือกันส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรพัฒนาคุณภาพสินค้า โดยการให้ความรู้แก่เกษตรกรตั้งแต่กระบวนการผลิต การเก็บเกี่ยวและการแปรรูปผลผลิตต่าง ๆ รวมทั้งการจัดหาตลาดเพื่อให้ชาวเกษตรกรกระจายผลผลิตออกสู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อไม่ให้ราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำและสร้างรายได้ให้กับชาวเกษตรกรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

นอกจานี้ การจัดงานเทศกาลผักและผลไม้ไทยคุณภาพจึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยเหลือสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรให้มีแหล่งขายสินค้าและพบปะผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งเป็นโอกาสดีที่เกษตรกรจะได้ทราบถึงความต้องการของผู้บริโภค เพื่อนำไปสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ทั้งยังเป็นช่องทางให้ประชาชนได้ซื้อผักผลไม้ไทยที่มีคุณภาพในราคาที่เป็นธรรม พร้อมกล่าวย้ำว่า ขอให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชาวเกษตรกร ช่วยกันต่อยอดและเพิ่มประสิทธิภาพการแปรรูปสินค้าทางการเกษตรให้หลากหลายยิ่งขึ้น ให้สอดคล้องกับทิศทางของตลาด ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการนำสินค้าไปแข่งขันในระดับภูมิภาคและระดับโลกได้มากขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันจัดงานในวันนี้ นอกจากจะได้ช่วยเหลือชาวเกษตรกรแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบวิถีไทยที่ให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย โดยการนำจุดเด่นของประเทศออกมาเสนอและสร้างสรรค์ให้เกิดความน่าสนใจ ซึ่งรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะจัดงานแสดงสินค้าเกษตรและสินค้าจากชุมชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมสินค้าไทยที่มีคุณภาพ สร้างโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการ และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้มีความเข้มแข็ง นำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างมั่นคงต่อไป

สำหรับกิจกรรมภายในงานเทศกาลผักผลไม้ไทยคุณภาพ มีร้านจำหน่ายสินค้าจำนวน 70 บูธ แบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 การแสดงและจำหน่ายผักและผลไม้ไทยคุณภาพ ส่งตรงจากสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ซึ่งเป็นแหล่งผลิตผลไม้คุณภาพจากทั่วทุกภาคของประเทศ อาทิ มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ส้มโอขาวแตงกวา ส้มโอทับทิมสยาม แคนตาลูป มะพร้าวน้ำหอม เงาะ มังคุด ลองกอง ลิ้นจี่ สับปะรดฉีกตา สับปะรดสีทอง สับปะรดนางแล สับปะรดห้วยมุ่น มะขามหวาน กล้วยหอมทอง กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ และทุเรียนพันธุ์ต่าง ๆ ทั้งทุเรียนหมอนทอง ก้านยาว ชะนี พวงมณี นกกระจิบ หลง หลิน ลับแล จากอุตรดิตถ์ ทุเรียนป่าละอู จากประจวบคีรีขันธ์ สละอินโด จากนราธิวาส มีผักปลอดสารพิษ อาทิ มะระ บวบ แตงกวา พริกหวาน คะน้า ถั่วฝักยาว ลูกเหนียง สตอ ผักสลัดไอโอรโพนิค ผักเมืองหนาว จากสหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงดอยอินทนนท์ จำกัด จังหวัดเชียงใหม่ โซนที่ 2 จำหน่ายพันธุ์และกิ่งพันธุ์ไม้ผล ได้แก่ กิ่งพันธุ์มะนาว มะยงชิด มะม่วงพันธุ์ต่าง ๆ ลำไย ชมพู่ เงาะ ทุเรียนเทศ ฝรั่ง ส้มโอและกระท้อน โซนที่ 3 จำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปผักและผลไม้ อาทิ กาแฟและเมล็ดกาแฟคั่วบดจากสหกรณ์การเกษตรดอยสะเก็ดพัฒนา จำกัด จังหวัดเชียงใหม่ ธัญพืชน้ำฟักข้าว ถั่วและลูกเดือยทอดสมุนไพร จากวิสาหกิจชุมชนแก้วกาญจนาบางรักน้อย จังหวัดนนทบุรี ข้าวเหนียวมะม่วง น้ำตาลสด ลูกตาลลอยแก้ว มะม่วงน้ำปลาหวาน น้ำสมุนไพร ตลอดระยะเวลาการจัดงาน นอกเหนือจากการจัดแสดงและจำหน่ายผักผลไม้แล้ว ในแต่ละวันจะมีการจัดกิจกรรมให้ผู้ที่ไปร่วมงานได้เข้าร่วมกิจกรรมอื่น ๆ อาทิ การสาธิตการแปรรูปผลไม้เป็นอาหารนานาชนิด ซึ่งกิจกรรมนี้จะสอดคล้องกับสินค้าเด่นที่จะมาจำหน่ายในแต่ละสัปดาห์ ภายใต้แนวคิด Fruit & Vegetable Art Design ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถสมัครเรียนได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ชมพูนุท / รายงาน

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ