พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมขบวนการขนส่งชาวโรฮิงญาเข้ามาในประเทศไทยเพื่อเดินทางไปยังประเทศมาเลเซียต่อไป โดยมีการเรียกเงินค่าไถ่จากญาติ ซึ่งชาวโรฮิงญาบางคนไม่ได้รับการปล่อยตัว ต่อมามีบางคนได้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามผู้กระทำความผิด ทำให้มีการตรวจพบแคมป์ที่ใช้กักขังชาวโรฮิงญา อยู่บริเวณเทือกเขาแก้วหมู่ที่ ๘ หมู่บ้านตะโล๊ะ ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่งพบว่า มีคนป่วยเป็นชาวบังกลาเทศ ๑ คน ผู้เสียชีวิต ๑ คน และหลุมฝังศพจำนวน ๓๐ กว่าหลุม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในระหว่างเร่งรัดการดำเนินคดี การตรวจสอบอัตลักษณ์จากโครงกระดูกที่พบพร้อมทั้งสอบสวนและคัดแยกผู้ตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ทั้งนี้ในด้านการคุ้มครอง กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลา(พมจ.สงขลา)ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ที่รักษาตัวเป็นคนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลปาดังเบซาร์ ทั้งนี้ สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ(ชาย)จังหวัดสงขลา ได้รับเด็กไว้คุ้มครองแล้ว ส่วนผู้หญิงยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลและจะส่งเข้ารับการคุ้มครองต่อไป อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมในการจัดสถานที่รองรับผู้เสียหายจากกรณีดังกล่าวตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ
"เนื่องจากในระยะนี้เกิดพายุฤดูร้อนในหลายพื้นที่ของประเทศ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนในวงกว้าง และได้มีการลงพื้นที่สำรวจกลุ่มเป้าหมายของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้แก่ เด็ก สตรี ผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ และคนพิการที่ได้รับผลกระทบ และช่วยเหลือตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากผู้ได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มเป้าหมายของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ หน่วยงานของกระทรวงฯจะดำเนินการช่วยเหลือในด้านต่างๆ เช่น กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) ได้เตรียมซ่อมแซมที่อยู่ของคนพิการที่ได้รับความเสียหาย เพื่อเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้นต่อไป” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th