รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับนายเดวิด ซุน ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งประธานบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และดูแลการดำเนินธุรกิจทั้งหมดของบริษัท โดยรับผิดชอบด้านการพัฒนาธุรกิจทั้งสามของบริษัทในภูมิภาคนี้ ได้แก่ กลุ่มโทรคมนาคม กลุ่มเอ็นเตอร์ไพรส์ และกลุ่มสินค้าผู้บริโภค
ทั้งนี้ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี ได้แสดงความสนใจอย่างต่อเนื่องที่จะขยายความร่วมมือในการพัฒนาระบบสื่อสารดิจิตัลของไทย ที่ผ่านมา ประธานบริษัทฯ และรองประธานกรรมการบริษัท เคยเข้าพบเพื่อหารือกับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระหว่างการเข้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 22 และระหว่างการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี
ในวันนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาด้านเศรษฐกิจที่ต้องการเน้นการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ทั้งในภาครัฐและเอกชน ตามแนวนโยบาย Digital Economy โดยจะเน้นการพัฒนาระบบ broadband และจัดทำ data center ขนาดใหญ่หลายแห่ง เพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT) ของประชาคมอาเซียน และสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดี อย่างไรก็ดี สำหรับรายละเอียดในเรื่องการจัดทำ data center รัฐบาลจะมีการประกาศรายละเอียดที่ชัดเจนในอีก 3-4 เดือนข้างหน้า ซึ่งบริษัท หัวเว่ยฯ ได้แสดงความพร้อมจะขยายความร่วมมือกับไทยในการพัฒนาระบบสื่อสารดิจิตัล และเห็นว่าไทยมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางด้านไอซีทีของอาเซียน โดยที่บริษัทฯยืนยันความพร้อมที่จะสนับสนุนการพัฒนาระบบ broadband และ data centre ในทุกรูปแบบ
ระหว่างการสนทนา รองนายกรัฐมนตรียังได้กล่าวเชิญชวนให้ บริษัทฯ มาตั้งโรงงานผลิต (production base) ในประเทศไทย โดยใช้ประโยชน์จากการรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่จะทำให้อัตราการจัดเก็บภาษีภายในอาเซียนเท่ากับศูนย์ และจะส่งผลให้ต้นทุนสินค้าของหัวเว่ย ในอาเซียนมีราคาลดลง โดยยังสามารถใช้ประโยชน์จากความเชื่อมโยงทางบกในการขนส่งจากไทย ไปยัง ลาว เวียดนาม กัมพูชาและเมียนม่า ด้วย ทั้งนี้ ในปัจจุบัน สำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคของบริษัท หัวเว่ย อยู่ในประเทศไทย และมีพนักงานคนไทย กว่า 900 คน จากพนักงานทั้งสิ้น 1,100 คน โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทฯได้เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่รัฐบาลไทยกว่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยที่บริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องการเสียภาษีที่ถูกต้อง
กลุ่มวิเทศสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th