รองโฆษกรัฐบาลเผยนายกรัฐมนตรีสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรแก้ไขปัญหาปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูก

ข่าวทั่วไป Tuesday June 16, 2015 17:34 —สำนักโฆษก

วันนี้ (16 มิ.ย.58) เวลา 14.30 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุมฯ ถึงเรื่องที่นายกรัฐมนตรีปรารภและสั่งการต่อที่ประชุมฯ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

เรื่องกรณีที่ปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหาภัยแล้งแม้ขณะนี้จะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เพราะฝนส่วนใหญ่จะตกในพื้นที่ทางด้านใต้ของประเทศ โดยไม่ตกในพื้นที่แหล่งรับน้ำ โดยเฉพาะในพื้นที่เขื่อนขนาดใหญ่ในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้น้ำต้นทุนมีปริมาณค่อนข้างน้อย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ปรารภถึงการปลูกข้าวนาปรังที่ผ่านมาซึ่งรัฐบาลได้พยายามหามาตรการต่าง ๆ ช่วยเหลือเกษตรกรด้วยการสนับสนุนให้ปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยและสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจ้างงานในพื้นที่เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ในช่วงเวลาดังกล่าวอีกทางหนึ่ง รวมทั้งมีการลดต้นทุนการผลิตต่าง ๆ ให้แก่เกษตรกร

อย่างไรตามยังมีเกษตรกรส่วนหนึ่งที่ไม่เข้าใจการดำเนินการของรัฐบาลก็พยายามที่จะปลูกข้าวนาปรังทำให้แผนการบริหารจัดการน้ำไม่เป็นไปตามแนวทางที่กำหนด เนื่องจากในช่วงการทำนาปรังได้มีการกำหนดแผนการใช้น้ำเต็มที่ไม่เกินประมาณ 2,900 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่เมื่อมีเกษตรกรบางส่วนที่ไม่ดำเนินการตามแนวทางของรัฐบาลก็ส่งผลให้นาปรังได้รับความเสียหาย ซึ่งตรงนี้รัฐบาลตระหนักถึงผลกระทบและความเสียหายที่เกิดขึ้น จึงพยายามให้ความช่วยเหลือโดยปล่อยน้ำเพิ่มทำให้แผนการใช้น้ำเพิ่มสูงขึ้นถึง 4,000 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งสูงกว่าแผนการบริหารจัดการน้ำที่กำหนดไว้ส่งผลให้น้ำต้นทุนที่อยู่ในเขื่อนขนาดใหญ่มีปริมาณน้อยลง ดังนั้น วันนี้ กรมชลประทาน จึงได้มีหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้ง 22 จังหวัด ในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อชี้แจ้งทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ให้เลื่อนเวลาการปลูกข้าวออกไปก่อน ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมมาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกร โดยเฉพาะชาวนา หากฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลหรือไม่ตกในพื้นที่แหล่งรับน้ำจนทำให้ไม่มีน้ำที่จะใช้เพาะปลูกข้าวได้เพียงพอ เช่น การจัดโครงการเกี่ยวกับการปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย การจ้างงานในพื้นที่ให้กับเกษตร ตลอดจนอาจจะต้องมีการใช้น้ำบาดาลเพิ่มขึ้นโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและดินประกอบด้วย เพราะปัจจุบันมีการใช้น้ำบาดาลใช้เพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้เพื่อให้สามารถผ่านพ้นสถานการณ์และปัญหาดังกล่าวไปได้ โดยให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องต้องวางแผนการดำเนินการในเรื่องนี้อย่างรัดกุมและนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยเร็ว

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมประชาสัมพันธ์ ชี้แจ้งทำทำความเข้าใจกับประชาชนทุกพื้นที่ใช้น้ำอย่างประหยัดและเป็นไปอย่างคุ้มค่าเกิดประโยชน์สูงสุด

ขณะเดียกวัน จากการที่นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดงานเนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก ประจำปี 2558 นั้น นายกรัฐมนตรี ต้องการสนับสนุนให้ประชาชนเลิกหรือลดปริมาณการใช้พลาสติกส์ เพราะอุปกรณ์และสิ่งต่าง ๆ ที่ผลิตจากพลาสติกส์เมื่อเป็นขยะแล้วจะไม่สามารถย่อยสลายได้ ซึ่งขณะนี้ทางบีโอไอ ก็ได้มีการสนับสนุนส่งเสริมการลงทุนให้กับบริษัทที่มาขอรับการส่งเสริมการลงทุนในเรื่องการผลิตพลาสติกส์จากสารอินทรีย์ หรือจากอ้อย และมันสัมปะหลัง ซึ่งสามารถย่อยสลายได้ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้จะมีนวัตกรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้นแต่ถ้าไม่พยายามที่จะกระตุ้นรณรงค์ส่งเสริมนำสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันก็จะเป็นเพียงนวัตกรรมที่เกิดขึ้นเท่านั้น

รวมทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับพลาสติกส์ที่ทำจากสารอินทรีย์ในปัจจุบันว่า ยังมีราคาสูงกว่าพลาสติกส์ที่ทำจากปิโตรเคมีประมาณ 20 – 30 เปอร์เซ็นต์ จึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะสามารถลดต้นทุนในการผลิตดังกล่าวลง โดยให้มีการสนับสนุนส่งเสริมบริษัทต่าง ๆ ที่ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเพื่อจะได้มีการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวอีกด้วย

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ