รมว.ทส. ลงพื้นที่ติดตามการเจาะบ่อบาดาล ช่วยเหลือชาวนาเร่งด่วน

ข่าวทั่วไป Monday June 29, 2015 17:21 —สำนักโฆษก

พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งพื้นที่ติดตามการเจาะบ่อน้ำบาดาลเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรนาปรังในพื้นที่ลุ่มเม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งกำลังประสบปัญหาต้นข้าวกำลังจะยืนต้นตาย หากไม่ได้รับน้ำภายใน 15 วัน

เมื่อเร็ว ๆ นี้ พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยผู้บริหารภายในกระทรวงฯ เดินทางลงพื้นที่ให้กำลังใจและติดตามภารกิจการเจาะบ่อน้ำบาดาลภายใต้ “โครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรในพื้นที่ประสบภัยแล้งเร่งด่วน” ณ จังหวัดสิงห์บุรี ประกอบด้วย บ้านน้ำตาล หมู่ 3 ตำบลน้ำตาล อำเภออินทร์บุรี และ บ้านห้วยชุมแสง หมู่ 3 ตำบลสิงห์ อำเภอบางระจัน

          “โครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรในพื้นที่ประสบภัยแล้งเร่งด่วน”  จัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ทำนาปรังในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ จังหวัดสุพรรณบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท ลพบุรี นครสวรรค์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก กำแพงเพชร และจังหวัดราชบุรี  เบื้องต้นคาดการณ์ว่าจะเร่งดำเนินการเจาะบ่อบาดาลเพื่อเป็นแหล่งน้ำเสริมช่วยกลุ่มเกษตรกรในการทำนาปรัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนต้นข้าวยืนต้นตาย จำนวน 500 บ่อ            รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความกังวลต่อสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ เนื่องจากเกิดการแย่งน้ำผิวดินจากเขื่อนชลประทาน รวมถึงแหล่งน้ำตามธรรมชาติอื่น ๆ เนื่องจากลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ภาคกลางบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยากำลังประสบปัญหาต้นข้าวนาปรังที่มีอายุตั้งแต่ 15 – 60 วัน ขาดน้ำในการเลี้ยงลำต้น เนื่องจากแหล่งน้ำผิวดินไม่เพียงพอและฤดูฝนก็มีความคลาดเคลื่อนล่าช้ากว่าทุกปี ส่งผลให้กลุ่มเกษตรกรต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้น้ำไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวในนาของตนเอง

ทั้งนี้ พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้หน่วยงานที่มีศักยภาพในการให้ความช่วยเหลือด้านน้ำเร่งดำเนินการจัดหาแหล่งน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุดและรวดเร็วที่สุด โดยได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ดำเนินการดังนี้

1) ระดมสรรพกำลังชุดเจาะบ่อน้ำบาดาล เครื่องจักรอุปกรณ์ และกำลังคน ดำเนินการเจาะบ่อน้ำบาดาลภายใต้ “โครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรในพื้นที่ประสบภัยแล้งเร่งด่วน” จำนวน 500 บ่อ ซึ่งกำหนดให้ดำเนินการเจาะบ่อแล้วเสร็จภายในกลางเดือนกรกฎาคม 2558 นี้

2) นำน้ำจากบ่อสังเกตการณ์น้ำบาดาล จำนวน 380 บ่อ มาใช้

3) ติดตั้งเครื่องสูบน้ำชนิดขับเคลื่อนด้วยต้นกำลังเครื่องยนต์การเกษตร ซึ่งคาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จภายใน 20 วัน รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 880 บ่อ ทั้งนี้ จะสามารถช่วยเหลือพี่น้องเกษตรครอบคลุมพื้นที่กว่า 132,000 ไร่

4) เสนอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัด รวมไปถึงหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ร่วมลงพื้นที่เพื่อหาแนวทางและการบริหารจัดการแหล่งน้ำต่างๆ ร่วมกับกลุ่มเกษตรในพื้นที่ที่ประสบปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

อนึ่ง นายปราณีต ร้อยบาง อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้ฝากแจ้งถึงพี่น้องกลุ่มเกษตรที่ได้รับการช่วยเหลือเจาะบ่อน้ำบาดาลภายใต้ “โครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรในพื้นที่ประสบภัยแล้งเร่งด่วน” หลังจากที่มีการใช้น้ำบาดาลเป็นแหล่งน้ำเสริมในการเพาะปลูกข้าวนาปรังในสถานการณ์ภัยแล้งนี้ คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 เดือน ฤดูฝนจะเข้าสู่ภาวะปกติ ดังนั้น แหล่งน้ำบาดาลจึงลดความจำเป็นและการใช้ลงบ่อน้ำบาดาล จำนวน 250 บ่อ ที่ดำเนินการโดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลจะมีการปรับเปลี่ยนพัฒนาให้เป็นบ่อสังเกตการณ์น้ำบาดาล เพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิชาการด้านน้ำบาดาลและยังเป็นการรักษาระดับน้ำบาดาลให้สมดุล ช่วยในการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำบาดาลได้อย่างยั่งยืน เมื่อเกิดภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถควบคุมได้บ่อสังเกตการณ์ดังกล่าวจะเป็นแหล่งน้ำสำรองที่มีคุณภาพและมีปริมาณเพียงพอกับประชาชนต่อไป

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ