“ปีติพงศ์” วอนชาวประมงขึ้นทะเบียนเรือและอาชญาบัตร ร่วมแก้ปัญหาไอยูยู ชี้ต้องเดินตามกฎหมายเคร่งครัดป้องกระทบการส่งออกสินค้าประมงไทย

ข่าวทั่วไป Thursday July 2, 2015 17:35 —สำนักโฆษก

“ปีติพงศ์” วอนชาวประมงขึ้นทะเบียนเรือและอาชญาบัตร ร่วมแก้ปัญหาไอยูยู ชี้ต้องเดินตามกฎหมายเคร่งครัดป้องกระทบการส่งออกสินค้าประมงไทย

นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรณีศูนย์บัญชาการแก้ไขประมงผิดกฎหมาย มีคำสั่งให้เรือประมงทุกลำต้องขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2558 ยืนยันว่าจะไม่มีการขยายระยะเวลาการขึ้นทะเบียนเรื่อง และ อาชญาบัตร ออกไปตามคำขอขอชาวประมงอย่างแน่นอน ดังนั้น เรือประมงทุกลำจะต้องขึ้นทะเบียนทั้งหมด ส่วนหนึ่งเพื่อให้ทราบถึงจำนวนเรือตามความต้องการภายใต้ระเบียบการทำประมงผิดกฎหมายขาดการรายงานและไร้การควบคุม(ไอยูยู) เมื่อทราบจำนวนเรือที่ชัดเจนแล้วจะสามารถแยกประเภทของเรือ กำหนดเครื่องมือจับปลา จำนวนแรงงานและเครื่องมือได้ จากปัจจุบันที่การประกาศขึ้นทะเบียนเรือยังได้รับความร่วมมือไม่มากนัก โดยรายงานจากกรมเจ้าท่ามีเพียง 42,051 ลำ จากจำนวนเรือทั้งหมดที่คาดว่ามีมากกว่านี้ ดังนั้น ทางกรมประมงร่วมกับกรมเจ้าท่าจึงจะจัดหน่วยเคลื่อนที่แบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) จำนวน 10 หน่วย เพื่อขึ้นทะเบียนเรือประมง เครื่องมือการทำประมง ใบอนุญาตนายท้ายเรือ นายช่างเครื่อง เป็นต้น ภายในวันที่ 15 ก.ค.นี้ สามารถรองรับการขึ้นทะเบียนเรืออย่างน้อยวันละประมาณ 1,600 ลำ

“การขึ้นทะเบียนเรือ และอาชญาบัตรเรือ ในครั้งนี้เป็นการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและเพื่อกำหนดทิศทางการวางแผนด้านการประมงให้เป็นระบบ เพื่อให้สามารถวางแผนการจัดการด้านการประมงและวางมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ประกอบการด้านการประมงอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าว ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการจัดเก็บภาษีของภาครัฐ เพราะกระทรวงเกษตร ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษี ซึ่งหาก ไม่ขึ้นทะเบียน ก็จะถือว่าผิดกฎหมาย เพราะต้องตรวจสอบทั้งเรื่องเรือ คน โดยเฉพาะแรงงาน รวมทั้ง เครื่องมือประมงต้องเป็นไปตามหลักสากล ซึ่งหากภาครัฐไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดก็จะไม่สามารถวางแผนใดได้เลย จึงจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเข้มงวด” นายปีติพงศ์ กล่าว

ด้านนายจุมพล สงวนสิน อธิบดีกรมประมง กล่าวเพิ่มเติมว่า การขึ้นทะเบียนเรือตามการรายงานของกรมเจ้าท่าขณะนี้มี42,051 ลำ ในจำนวนนี้มีการขอใบอนุญาตการใช้เครื่องมือประมงเพียง 6,615 ลำ เท่านั้น ซึ่งจากการนำร่องการปฏิบัติงานศูนย์Port in Port out ใน 4 จังหวัด ช่วงที่ผ่านมาพบว่ามีการรายงานของเรือประมาณ 3,500 ลำ ขนาดตั้งแต่ 30 ตันกรอสขึ้นไป ที่คาดว่าจะเป็นจำนวนเรือที่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างชัดเจนที่สุดในขณะนี้ "ข้อสงสัยที่คาดว่าจำนวนยังไม่ครบถ้วน เพราะผลสำรวจเบื้องต้นเรือประมงไทยมีมากถึง 5 หมื่นลำ ดังนั้น จึงมีเรืออีกประมาณ 1 หมื่นลำที่ยังไม่เข้ามาจดทะเบียน ซึ่งเป็นผลมาจาก 1.เรือประมงเหล่านั้นไม่ได้ออกหาปลาแล้ว จึงไม่สนใจต่อทะเบียนที่กำหนดให้ดำเนินการปีต่อปี 2.เรือประมงเหล่านั้นใช้เครื่องมือการจับปลาที่ไม่จำเป็นต้องขอใบอนุญาต 3. เป็นเรือประมงประเภทขนถ่ายสินค้า และ 4. เป็นเรือประมงที่มีเครื่องมือผิดกฎหมาย เป็นต้น

กลุ่มโฆษกและวิเคราะห์ข่าว กองเกษตรสารนิเทศ

สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์

โทร 02-2810859 แฟกซ์ 02-2822871

moacnews@gmail.com

www.moac.go.th

www.facebook.com/kasetthai

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ