นายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ครั้งที่ 5/58 ย้ำให้ปฏิบัติการป้องกัน-ปราบปรามการทุจริตอย่างต่อเนื่องยั่งยืน

ข่าวทั่วไป Monday July 13, 2015 17:23 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ครั้งที่ 5/58 ย้ำให้ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างต่อเนื่องยั่งยืน เน้นให้ทุกฝ่ายเผยแพร่การประกาศเจตนารมณ์การต่อต้านทุจริตให้สื่อต่างชาติรับทราบ

วันนี้ (13 ก.ค.58) เวลา 09.00 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ครั้งที่ 5/2558 โดยมี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พลเอก วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พลเอก อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก พลเรือเอก ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ ประธานกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม

ภายหลังการประชุม เวลา 12.20 น. ที่ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ ประธาน คตร. พร้อมด้วยนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) อนุกรรมการด้านการปราบปรามทุจริต รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ อนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์ และนางไอรดา เหลืองวิไล รองผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ร่วมกันแถลงผลการประชุมสรุปสาระสำคัญว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยดำเนินการทั้งในระยะสั้น กลาง และระยะยาว ให้งานด้านการต่อต้านการทุจริตมีการดำเนินการที่ต่อเนื่องตลอดไป ทั้งเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายเผยแพร่การประกาศเจตนารมณ์การต่อต้านทุจริตให้สื่อต่างชาติได้รับทราบ

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการด้านต่าง ๆ โดยความคืบหน้าการดำเนินงานของอนุกรรมการด้านการปราบปรามทุจริต ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ หรือ ศอตช. ได้เสนอมาตรการแก้ไขปัญหาการทุจริต ให้ที่ประชุมพิจารณาใน 3 เรื่องคือ 1. ยกระดับการบังคับใช้มาตรการทางปกครอง/วินัย การใช้มาตรการทางปกครอง/วินัย ถือเป็นอำนาจของผู้บังคับบัญชา หากผู้บังคับบัญชาไม่บังคับใช้ถือเป็นความผิดทางวินัย ศอตช. จะกำหนดกลไกแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบว่าเป็นความรับผิดชอบในหน้าที่ของตน โดยหากแจ้งไปแล้วไม่มีการดำเนินการ ศอตช. จะติดตามใช้กระบวนการทางกฎหมายที่มีอยู่ไปติดตามกระตุ้นให้ดำเนินการอีก แต่ถ้าถึงที่สุดแล้วไม่มีการดำเนินการใด ๆ จะเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาใช้อำนาจตามกฎหมาย 2. ใช้มาตรการทางภาษีเป็นเครื่องมือการตรวจสอบเชิงรุกสำหรับผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการทุจริต ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด หรือในส่วนของเอกชนที่เข้ามามีส่วนร่วมในการกระทำผิดที่เสนอขายสินค้าหรือบริการให้กับภาครัฐแล้วไม่ดำเนินการทางภาษีให้ถูกต้อง โดยกรมสรรพากรตรวจสอบการแสดงบัญชีรายการรับจ่ายของโครงการที่มีบุคคล หรือนิติบุคคลเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานภาครัฐ ตามมาตรา 103/7 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และใช้มาตรการทางภาษีตามประมวลรัษฎากรตรวจสอบบุคคลผู้มีเงินได้เสียภาษีครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ นอกจากนี้จะใช้มาตรการทางภาษีเข้าดำเนินการตรวจสอบเชิงรุกในรายคดี 3. กระตุ้นผลักดันกลไกการติดตามบังคับใช้ พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 ที่จะมีผลบังคับใช้วันที่ 21 กรกฎาคมนี้ โดย ศอตช. จะสนับสนุนให้การปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หากประชาชน ผู้ประกอบการรายใดที่เข้ามาขออนุมัติอนุญาตจากส่วนราชการแล้วไม่เป็นไปตามที่คู่มือหรือกฎหมายกำหนด ขอให้ร้องเรียนเข้ามา แล้ว ศอตช. จะไปติดตามอำนวยความสะดวกเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสั่งให้การบูรณาการทำงานทุกหน่วยงานในการป้องปรามและให้โอกาสข้าราชการที่กระทำผิดได้กลับใจ และคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการพระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้างซึ่งจะมีผลบังคับใช้กับทุกส่วนราชการแล้ว คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปีนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้การจัดซื้อจัดจ้างมีความโปร่งใสมากขึ้น

สำหรับเรื่องการเผยแพร่ข้อมูลภาครัฐ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สรอ. ได้วางแนวทางเพื่อเตรียมนำข้อมูลภาครัฐมาเปิดเผยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วจากจุดเดียว โดยข้อมูลที่ต้องทำให้เร็วที่สุดคือการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้ประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตาในโครงการของรัฐบาล ซึ่งเบื้องต้น สรอ. ได้เปิด www.info.go.th เพื่อเปิดเผยข้อมูลแล้ว ขณะที่ด้านการปลูกจิตสำนึกและสร้างการรับรู้ ได้มีการอบรมครูในหลักสูตรโตไปไม่โกงแล้ว 2 รุ่น และ สพฐ. เตรียมขยายผลต่อเพื่อให้มีการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรโตไปไม่โกงทุกโรงเรียนทั่วประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีเสนอให้มีการแทรกความรู้ไปในบทเรียนเฉพาะ สร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศและปลูกจิตสำนึกให้เยาวชน นอกจากนี้ ที่ประชุมมีแนวคิดจัดตั้งกองทุนส่งเสริมธรรมาภิบาลและขจัดการทุจริต โดยจะได้หารือกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อขอจัดสรรงบประมาณมาใช้ในบางโครงการต่อไป

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ