นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี

วันนี้ (21 ก.ค. 58) เวลา 14.00 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประโยชน์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี สรุปประเด็นสำคัญ ดังนี้

1. กรณีตัวแทน "เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่ายหิน" รวมกลุ่มยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีให้ยกเลิกการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินจังหวัดกระบี่ เพราะเป็นห่วงความเสียหายต่อการท่องเที่ยว วิถีชุมชน และผลกระทบต่อระบบนิเวศ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความห่วงใยต่อประเด็นดังกล่าวโดยได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้คัดค้านเพื่อให้มีความเข้าใจที่ตรงกัน และให้เกิดความร่วมมือในประเด็นที่สามารถดำเนินการได้ โดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้าในภาคใต้ เพราะมีปริมาณการใช้ไฟฟ้ามากกว่าสามพันกิโลวัตต์ ขณะที่ปริมาณไฟฟ้ามีเพียงแปดร้อยกว่ากิโลวัตต์ หากไม่มีแหล่งพลังงานในพื้นที่ภาคใต้เพื่อรองรับสถานการณ์จะส่งผลกระทบต่อการใช้ไฟฟ้าในอนาคต และส่งผลต่อเรื่องราคาไฟฟ้าที่สูงขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตามรัฐบาลไม่สามารถบังคับกลุ่มผู้ชุมนุมให้กลับได้ แต่ขอเตือนเรื่องการทำความผิดตามกฎหมายการชุมนุมที่จะมีผลบังคับใช้จึงไม่ต้องการให้เกิดปัญหาตามมา โดยขอให้มีการหารือถึงผลกระทบ และประโยชน์ที่จะได้รับ รวมถึงแนวทางการทำพลังงานทดแทนตามข้อเรียกร้องของตัวแทนผู้ชุมนุมว่าการทำพลังงานทดแทนในพื้นที่ เมื่อทำแล้วจะได้พลังงานเพียงพอต่อความต้องการหรือไม่ ซึ่งต้องดูขั้นตอนการลงทุนว่าจะคุ้มค่าหรือเปล่า สำหรับกรณีผู้ชุมนุมที่อดอาหารนั้น รัฐบาลพร้อมส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลและช่วยเหลือ

ส่วน กรณีที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้เตรียมทำการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ต่อการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินจังหวัดกระบี่นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวชี้แจงว่า เป็นเพียงการเตรียมการ ซึ่งจะมีการศึกษาวิเคราะห์ EIA ในเดือนสิงหาคมนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่อย่าเป็นกังวล เพราะถ้ามีการทำ EIA แล้วไม่ผ่านก็ไม่สามารถสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินจังหวัดกระบี่ได้ ซึ่งการดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการและขั้นตอนของกฎหมาย

2. การแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภายใต้ที่สถานการณ์มีความสงบมากขึ้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สถานการณ์เป็นไปทางที่ดี ต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เพราะใช้หลักการทำงานทั้งรูปแบบของกฎหมาย การพัฒนา และกระบวนการยุติธรรม วันนี้รัฐบาลได้แสดงความจริงใจต่อพี่น้อง 3 จังหวัดชายใต้ภายใต้ในการแก้ไขปัญหาผ่านการพูดคุยเจรจาหารือทำให้ได้มาตรการที่เป็นที่น่าพอใจของทั้งสองฝ่าย รวมไปถึงการแก้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรม รัฐบาลได้ดำเนินโดยผ่านคณะกรรมการหลายคณะภายใต้คณะกรรมการพูดคุยสันติสุข นอกจากนั้นยังมีคณะกรรมการย่อยเพื่อพูดคุยหารือเรื่องคดีความ และเรื่องความยุติธรรม ยุติความรุนแรง

สำหรับกรณี การปล่อยตัว นายหะยี สะมะแอ อดีตแกนนำขบวนการพูโต นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย ซึ่งไม่ได้พ้นโทษเพราะนายกรัฐมนตรีสั่ง และถือเป็นเรื่องดีที่เขาอาสาเข้ามาช่วยรัฐบาลทำงานแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายใต้ภาคใต้ แต่ต้องระมัดระวังในเรื่องความปลอดภัยด้วย

3. กรณีผู้ตรวจการแผ่นดินทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ดำเนินการเอาผิด พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย กรณีความผิดเกี่ยวกับการลงชื่อเป็นเจ้าของในการซื้อขายที่ดินเมื่อปี 2549 นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ตามกระบวนการยุติธรรม และตามขั้นตอนของการตรวจสอบ แต่ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายทำงานก่อน ซึ่งตอนนี้ฝ่ายกฎหมายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ดำเนินการตรวจสอบอยู่แล้ว

4. กรณีเว็บไซต์ วิกิลี้ค กล่าวอ้างว่ากองทัพบก และสำนักงานตำรวจ จ้างแฮ็คเกอร์ดักฟังมือถือ แอบดูคอมพิวเตอร์ของคนไทย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ข้อมูลของวิกิลี้คไม่ใช่ถูกทั้งหมด และยังโดนฟ้องร้องหลายเรื่อง อะไรที่เป็นเรื่องของประเทศไทยต้องใช้กฎหมายในประเทศไทย ไม่จำเป็นต้องไปพึ่งเว็บไซต์ดังกล่าว พร้อมกล่าวยืนยันว่าโดยส่วนตัวไม่รู้จักวิกิลี้ค และสมัยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกก็ไม่เคยใช้บริการเว็บไซต์ดังกล่าว ขอให้ประชาชนมั่นใจเรื่องการเข้าถึงข้อมูลว่าไม่มีใครเข้าไปดูข้อมูลและไม่มีใครต้องการทราบข้อมูลส่วนตัวของแต่ละบุคคล นอกเสียจากจะมีการทำความผิดขึ้นมา

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th