วันนี้ (24 ก.ค.58) เวลา 13.30 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (กพข.) ครั้งที่ 2/2558 โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พลเอก วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม เพื่อพิจารณารายงานความก้าวหน้าในการกำหนดแนวทางการดำเนินงานและแผนปฏิบัติการของคณะอนุกรรมการ 6 ชุด และแนวทางการทำงานร่วมกันของคณะอนุกรรมการ 6 ชุด ภายใต้คณะกรรมการ กพข. เพื่อขับเคลื่อนความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สรุปผลการประชุมดังนี้
คณะอนุกรรมการชุดที่ 1 ด้านเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาค ที่ประชุมเห็นชอบให้ไปพิจารณาเพิ่มเติมผู้ที่เกี่ยวข้องในองค์ประกอบคณะอนุกรรมการชุดที่ 1 โดยให้มารายงานในการประชุมครั้งต่อไป
คณะอนุกรรมการชุดที่ 2 ด้านการพัฒนาคลัสเตอร์ นายกรัฐมนตรีมอบให้อนุกรรมการคลัสเตอร์ หารือกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ พิจารณาการแบ่งกลุ่มคลัสเตอร์ตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เช่น ภาคการเกษตร ท่องเที่ยว การบิน/การรักษาพยาบาล แล้วนำ 6 คลัสเตอร์ที่เสนอมาไปดูความเชื่อมโยงกัน และผลักดันให้เกิดการทำงานร่วมกัน
คณะอนุกรรมการชุดที่ 3 ด้านการพัฒนาเชิงศักยภาพ ที่ประชุมเห็นชอบให้เพิ่มเติมประเด็นในเรื่อง 1) ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Data Center) ประกอบด้วย ข้อมูลพื้นฐาน ข้อมูลสำหรับประชาชนนำไปใช้ประโยชน์ ข้อมูลธุรกิจการค้า และข้อมูลบันเทิง 2) การพัฒนาการเข้าถึงเทคโนโลยีอย่างทั่วถึงในทุกภูมิภาค เพื่อส่งเสริมการนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการค้า การลงทุนอุตสาหกรรม 3) การส่งเสริมประสิทธิภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการบริหารจัดการขยะมูลฝอย 4) การศึกษา ต้องพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้ตรงกับความต้องของตลาด เช่น การอบรมเฉพาะทางให้กับบัณฑิตจบใหม่ 5) การวิจัยและพัฒนาต้องอาศัยความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา โดยการจัดตั้งศูนย์วิจัยในสถาบันการศึกษา และส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชน
คณะอนุกรรมการชุดที่ 4 ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ โดยให้พิจารณาว่าจะผลักดันอย่างไร กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการในกิจกรรมอะไรบ้างในระยะสั้น ช่วงปี 58-59 เช่น การปรับปรุงหลักสูตรการสอนให้มีความเหมาะสมทั้งในเรื่องของวิชา และเวลาในการเรียน ลดเวลาการเรียนโดยมีประสิทธิภาพในการเรียนรู้มากขึ้น มีเป้าหมายที่สำคัญคือ 1) เด็กมีความสุข เจริญเติบโตตามวัย 2) ผู้ปกครองมีความสุข มีเวลาอยู่ร่วมกับเด็ก และลดภาระค่าใช้จ่ายทางการศึกษา 3) ครูมีความสุขในการสอน ทั้งนี้ มีประเด็นที่ควรพิจารณาปรับปรุง 3 เรื่อง คือ 1) การปรับปรุงหลักสูตร 2) ปัญหาค่าบำรุงรักษา 3) ทัศนคติของผู้เรียน โดยปรับระบบการศึกษาให้สร้างคนดี มีคุณธรรม
คณะอนุกรรมการชุดที่ 5 ด้านการพัฒนาประสิทธิภาพภาครัฐและการพัฒนากระบวนการทางศุลกากร นายกรัฐมนตรีให้พิจารณาเพิ่มเติมในเรื่อง 1) เร่งเรื่องการอำนวยความสะดวก (One Stop Service/NSW) 2) การอ่านออกเขียนได้ 3) ขึ้นทะเบียนการเสียภาษี เช่น บัตรประชาชนมีข้อมูลการเสียภาษี
คณะอนุกรรมการชุดที่ 6 ด้านการจัดการข้อมูลและการสื่อสารประชาสัมพันธ์ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ 1. แนวทางการจัดการข้อมูลและการสื่อสารประชาสัมพันธ์ และมอบหมายให้คณะอนุกรรมการชุดที่ 6 พิจารณาประสานงานในส่วนที่เกี่ยวข้องและดำเนินการตามกิจกรรมภายใต้แผนปฏิบัติการ 3 ด้าน ได้แก่ 1) การบริหารจัดการข้อมูลและประสานงานกับสถาบันจัดอันดับ IMD/WEF/World Bank 2) การสื่อสารประชาสัมพันธ์ 3) การสนับสนุนและสร้างความสอดคล้องระหว่างคณะอนุกรรมการ 5 คณะ 2. การจัดตั้งคณะทำงานด้านการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศบูรณาการข้อมูล ประกอบด้วยผู้แทน สศช. สสช. กพร. TMA และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 3. ให้ดำเนินการจัดหาผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ ดำเนินการประชาสัมพันธ์เชิงรุก และการเผยแพร่ข้อมูลผ่านช่องทางที่มีประสิทธิภาพ
สำหรับแนวทางการดำเนินงานร่วมกันของคณะอนุกรรมการ 6 ชุด ภายใต้ กพข. เพื่อขับเคลื่อนความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ที่ประชุมมีมติมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการ ไปจัดทำรายละเอียดแนวทางการทำงานที่ชัดเจนร่วมกับคณะกรรมการระดับชาติอื่น ๆ เพื่อผลักดันเป้าหมายการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
(ข้อมูลจากฝ่ายเลขานุการ กพข.)
ที่มา: http://www.thaigov.go.th