วันนี้ (4 สิงหาคม 2558) เวลา 13.00 น. ณ บริเวณห้องโถงตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า การบริหารราชการแผ่นดินช่วงที่ผ่านมามีการบริหารงาน 3 ประเภท คือ 1.การบริหารราชการในภาวะปกติคือการทำงานขับเคลื่อนตามแผนงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 2.การแก้ปัญหาด้านต่าง ๆ เช่น การทุจริต ปัญหาการค้ามนุษย์ เรือประมง เป็นต้น 3.การทำงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลต้องการปฏิรูปประเทศ ปรับปรุงแก้ไขประเทศทุกเรื่องไปสู่ในทางที่ดีกว่าเดิม เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยมีปัญหาเรื่องการบริหารประเทศ ซึ่ง การปฏิรูปประเทศแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ 1.การปฏิรูปในช่วงระยะเวลาปัจจุบันตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 จนถึงปัจจุบัน ตามโรดแมปจำนวน 11 ข้อที่ได้วางไว้ เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น ปรับปรุงการทำงานของทุกกระทรวงให้มีประสิทธิภาพเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องเร่งด่วน และต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ดียิ่งขึ้นต่อไป 2.การปฏิรูปเรื่องโครงสร้างของประเทศโดยจะวางแผนและกำหนดระยะเวลาในการทำงานตามแผนการปฏิรูปเพื่อส่งต่อให้รัฐบาลชุดต่อไปสานต่อ แต่ต้องไม่ทับซ้อนอำนาจในการบริหารของรัฐบาลใหม่ รัฐบาลทำทุกอย่างเพื่อให้สังคมดีขึ้น ให้ประชาชนมีความสุขมากขึ้น ไม่ทำให้ปัญหากลับมาเกิดขึ้นอีก ไม่ใช่ทำเพื่อต้องการสืบทอดอำนาจ
ทั้งนี้ การปฏิรูปประเทศต้องใช้เวลาในการทำงาน ต้องการให้ทุกคนเข้าใจ และคิดใหม่ว่าจะเดินหน้าประเทศต่อไปอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจต้องทำเศรษฐกิจแนวใหม่ อย่าหวังพึ่งการส่งออกอย่างเดียว และสิ่งสำคัญคือความยากจนที่เป็นปัญหาหลักทำให้ประเทศไม่สามารถเดินหน้าต่อไป ประชาชนต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีบนความพอเพียง จะได้ไม่ตกเป็นเครื่องมือของนักการเมือง
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า เรื่องการจัดหาที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนที่ไม่มีที่อยู่อาศัยประมาณ 4 ล้านครอบครัวในประเทศไทย ได้สั่งการให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จัดหาที่อยู่อาศัยให้บุคคลเหล่านี้ตามความเหมาะสม โดยการให้อยู่อาศัยในสิ่งปลูกสร้างของรัฐบาลที่ได้มีการสร้างไว้แล้วแต่ยังขายไม่ได้ หรือมีปัญหาด้านการผ่อนซึ่งส่งสามารถแก้ไขปัญหาได้แล้วประมาณ 13,000 ยูนิต พร้อมกับจัดหาที่อยู่อาศัยใหม่ให้กับครอบครัวที่อาศัยอยู่ตามริมคลองและที่ลุกล้ำซึ่งจะต้องไม่ไกลจากที่เดิมมาก เพื่อปลูกสร้างที่อยู่อาศัยให้โดยให้ผ่อนส่งตามความเหมาะสมต่อไป รวมไปถึงเรื่องที่ทำกิน ได้มอบหมายให้คณะกรรมการฯ เดินหน้าแก้ไขปัญหาที่ทำกินให้ประชาชนที่มีความเดือนร้อนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เรื่องของธุรกิจเพื่อสังคม อยู่ในขั้นตอนการศึกษา ข้อกฎหมายซึ่งจะเร่งรัดให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด โดยต้องการให้ประชาชนร่วมกลุ่มขับเคลื่อนกิจการ และนำรายได้มาทำประโยชน์เพื่อสังคม สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนต่อไป
สำหรับการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณเพื่อช่วยเหลือในเรื่องของการจ้างงานแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เช่น การขุดลอกคลองในหมู่บ้าน ชุมชน เพื่อเตรียมพื้นที่รองรับน้ำแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง
ทั้งนี้ ในเรื่องของปัญหาพลังงาน รัฐบาลกำลังหาทางแก้ไขปัญหา โดยขอความร่วมมืออย่าเพิ่งโจมตีเพื่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้น ซึ่งการดำเนินการด้านพลังงานจะต้องผ่านการทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ก่อน ถ้าไม่ผ่านก็ไม่สามารถดำเนินการได้ ขอให้ไว้ใจรัฐบาล รัฐบาลจะไม่ปล่อยให้เกิดความเสียหายกระทบต่อประชาชนแน่นอน
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์วาตภัยโดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมในขณะนี้ ซึ่งพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมฉับพลับมากที่สุดเพราะระดับน้ำโขงมีระดับน้ำที่สูงขึ้น พร้อมฝากให้หน่วยงานในพื้นที่บริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ อย่ามุ่งแต่ระบายน้ำออกจากพื้นที่ ขอให้กักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งด้วย ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า ขอให้ใช้เวลาที่มีอยู่ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการปฏิรูปประเทศในทุก ๆ ด้าน เพื่อส่งต่อให้รัฐบาลชุดต่อไปเข้ามาบริหารประเทศ และสานต่อการปฏิรูปประเทศให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th