1. เรื่องการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง (ปลัดกระทรวง) นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นการแต่งตั้งตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อให้การทำงานเกิดความต่อเนื่อง ยืนยันไม่มีเส้นสาย และไม่มีเด็กฝากของใคร ข้าราชการทุกคนเป็นคนของประชาชน ซึ่งการแต่งตั้งทุกตำแหน่งผ่านกระบวนการพิจารณากลั่นกรองของรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนแล้ว
2.เรื่องของเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เศรษฐกิจของประเทศต้องมีการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงให้เหมาะสม โดยการปรับปรุงโครงสร้างและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการขับเคลื่อนให้การใช้จ่ายงบประมาณให้หมุนเวียนในระบบมากยิ่งขึ้น เช่น งบการลงทุนโครงการขนาดเล็กเพื่อให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ สำหรับการใช้งบประมาณเดิมที่เคยอนุมัติไปแล้วของกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็ยังเดินหน้าต่อไปเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้คนในชุมชน รวมถึงงบประมาณกองทุนหมู่บ้าน ต้องขอความร่วมมือให้คณะกรรมการบริหารกองทุนอย่างโปร่งใส เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสามารถต่อยอดกองทุนให้เกิดประโยชน์ต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ งบประมาณกองทุนหมู่บ้านต้องกระจายสู่หมู่บ้านอย่างทั่วถึง เป็นธรรม และต้องมีการปลูกจิตสำนึก ปราบปราม และป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริต เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุดและยั่งยืน สำหรับการสนับสนุนองค์กรมหาชนต่าง ๆ อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาว่าจะยกเลิกหรือปรับปรุงให้เกิดประโยชน์มากขึ้น เช่น กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จะต้องมีการสร้างความชัดเจนเพื่อให้เกิดความไว้วางใจระหว่างรัฐบาล ข้าราชการและประชาชน
3.เรื่องรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มีทั้งบุคคลที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ขออย่านำมาเป็นความขัดแย้ง ซึ่งสิ่งใดก็ตามที่ทุกคนเห็นว่าจะทำให้ประเทศสงบสุขรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน ยืนยันไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่าน รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติไม่มีผลประโยชน์ได้เสีย และไม่มีการสืบทอดอำนาจ
4.เรื่องความมั่นคง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มีความคืบหน้าของคดีตามลำดับ โดยได้มอบหมายให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องชี้แจง และขอความร่วมมืออย่าเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ได้เปิดเผยจากส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพราะจะสร้างความเสียหาย ยืนยันรัฐบาลไม่ต้องการปกปิดอะไรทั้งสิ้น ทั้งนี้ ประชาชนต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการป้องกันไม่ให้ความรุนแรงเกิดขึ้น สำหรับคดีความต่าง ๆ ในประเทศไทย รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ขอประชาชนอย่างเป็นกังวล ทุกคดีความอยู่ในขั้นตอนของการทำงานตามกรอบเวลา และไม่มีเจตนาจะรังแกใคร ทุกคดียึดตามกฎหมายและหลักความถูกต้อง
5.เรื่องปัญหาการประมง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลความเดือดร้อนของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบต่อการเปลี่ยนอุปกรณ์จับปลา พร้อมมอบหมายให้พูดคุยหารือกับประเทศเพื่อนบ้านที่ทำการประมงร่วมกันกับไทย สำหรับปัญหา “ไอเคโอ” (องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ) ใช้มาตรา 44 ในการแก้ไขปัญหาเพื่อสามารถให้นำคนมาร่วมทำงานได้ เพื่อความรวดเร็ว เร่งรัดให้เกิดความไว้วางใจเกิดขึ้น
6. เรื่องการศึกษา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะทำงานด้านการศึกษาได้มีการทำงานปรับปรุงระบบการศึกษาทั้งระบบมาระยะหนึ่งแล้ว ส่วนที่ดำเนินการอยู่เป็นระยะที่สอง ซึ่งจะมีการพิจารณาเพื่อสร้างความชัดเจนถึงระยะเวลาของการเรียนการสอน ทั้งนี้ จะต้องมีการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ยืนยันการปรับลดระยะเวลาเรียนนักเรียนจะได้รับความรู้เหมือนเดิม โดยนำเวลาที่ปรับลดมาเพื่อให้นักเรียนเรียนรู้เพิ่มเติม ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้นักเรียนมีภูมิคุ้มกันที่ดีต่อการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมภายใต้ความเท่าเทียมของกฎหมายในระบบประชาธิปไตย
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์
ที่มา: http://www.thaigov.go.th