ศธ.ประกาศนโยบาย "การลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้" และ "การประดับธงชาติให้ใหม่และมีสีสดใสเสมอ"

ข่าวทั่วไป Friday August 28, 2015 15:31 —สำนักโฆษก

พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยต่อสื่อมวลชนภายหลังการแถลงนโยบายด้านการศึกษา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม 2558 เกี่ยวกับนโยบาย “การลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ : Moderate Class MoreKnowledge” ซึ่งจะเริ่มต้นนำร่องในโรงเรียนประถมศึกษาที่มีความพร้อม 3,500 แห่งในภาคเรียนที่ 2 ของปีการศึกษา 2558 และนโยบายในการประดับธงประจำพระองค์ของพระราชวงศ์ไทยและธงชาติไทยให้ใหม่และมีสีสดใสอยู่เสมอ

นโยบายการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ : Moderate Class More Knowledge

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า การประกาศนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ "การลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้" เป็นแนวทางดำเนินการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อต้องการจะตอบโจทย์ว่า จะทำอย่างไรให้เด็ก ผู้ปกครอง และครู มีความสุขในการเรียนการสอน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้พิจารณาเรื่องเวลาเรียนของเด็กในปัจจุบันด้วย โดยแต่เดิมเด็กจะต้องเลิกเรียนเวลา 16.00 น. ก็จะเปลี่ยนเป็นเลิกเรียนในชั้นเรียนเวลา 14.00 น. เพื่อนำเวลา 2 ชั่วโมงนั้นไปจัดกิจกรรมเพิ่มเติมความรู้ให้แก่เด็ก เพื่อให้เด็กมีความสุขกับการเรียนรู้ ไม่มีความเครียด และไม่มีการบ้านเพิ่ม ซึ่งมั่นใจว่าจะทำให้เด็กมีความสุขในการเรียนมากขึ้น และผู้ปกครองก็จะมีความสุขเมื่อเห็นลูกมีความสุข และเชื่อว่าคุณครูก็คงจะมีความสุข

ทั้งนี้ เมื่อเลิกเรียนแล้ว ครูจะต้องดูแลเด็กในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย แต่หากผู้ปกครองท่านใดต้องการให้เด็กกลับไปบ้านในช่วงเวลาดังกล่าว เช่นอาจจะเพื่อช่วยเลี้ยงน้องหรือช่วยทำงานบ้าน ก็สามารถกลับบ้านได้

ย้ำว่านโยบายการลดเวลาเรียน ไม่ใช่เพิ่งจะมาดำเนินการ หรือมีการบังคับให้ลดเวลาเรียนแต่อย่างใด แต่ สพฐ.ได้ดำเนินการมาก่อนแล้ว โดยตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณา มีการหารือเกี่ยวกับการลดวิชาเรียนที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อหลักสูตร ตลอดจนมีการวางแนวทางการดำเนินงานไว้เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในขณะนี้ ดร. กมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กำลังจัดทำแนวทางกิจกรรมเพื่อส่งไปยังโรงเรียนนำร่องจำนวนประมาณ 3,500 โรงเรียน หรือคิดเป็นร้อยละ 10 ของจำนวนโรงเรียนสังกัด สพฐ.ทั้งหมด เพื่อทดลองใช้เป็นแนวทางดำเนินการ ตั้งแต่ช่วงเปิดภาคเรียนที่ 2 เป็นต้นไป จากนั้นจะมีระบบประเมินผล หากพบว่าส่วนใดยังบกพร่อง ก็จะแก้ไขปรับปรุงเสียก่อนที่จะขยายผลต่อไป

ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการ กพฐ. กล่าวถึงรูปแบบการจัดกิจกรรมหลังเลิกเรียนว่า จะกำหนดรูปแบบตัวอย่างประมาณ 5-6 รูปแบบ เพื่อให้โรงเรียนนำร่องนำไปปรับใช้ตามบริบทและความพร้อมของแต่ละโรงเรียน โดยใช้แนวคิด “สอนน้อย แต่เรียนรู้มาก : Teach Less Learn More” อาทิ การทำการบ้านในโรงเรียน การเรียนกับเพื่อนที่เก่งกว่า การช่วยสอนเสริมเด็กที่เรียนไม่ทัน การจัดกิจกรรมดนตรี กีฬา ศิลปะ เป็นต้น

นโยบายการปรับภูมิทัศน์และธงชาติไทยให้ใหม่และมีสีสดใสเสมอ

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงนโยบายการดูแลปรับปรุงภูมิทัศน์โรงเรียนและสถานที่ต่างๆ ในสังกัดทั่วประเทศ รวมทั้งห้องน้ำห้องส้วม ให้มีความสะอาด เรียบร้อย และสวยงามอยู่เสมอ และเหมาะสมกับการเรียนรู้ รวมทั้งการประดับธงประจำพระองค์ของพระราชวงศ์ไทย และธงชาติไทยในหน่วยงานและสถานศึกษาต่างๆ ควรมีการดูแลรักษาให้มีความใหม่และมีสีสดใสอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้ผุขาดเป็นริ้ว และควรติดธงในห้วงเวลาที่เหมาะสมตามที่ทางราชการกำหนด เพราะธงชาติเป็นสัญลักษณ์ของชาติไทย หากเด็กได้มองธงชาติที่สดใส ก็จะมีความภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทย ไม่ห่อเหี่ยวไปตามสภาพของธง

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เดินสำรวจบริเวณด้านหน้าอาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ พร้อมกับปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งพบว่ายังมีหลายส่วนที่จะต้องปรับปรุงให้มีความระเบียบเรียบร้อยสวยงาม อาทิ สนามหญ้าหน้ากระทรวง ซึ่งภายในสัปดาห์หน้า กระทรวงศึกษาธิการจะมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงาม และเป็นการกระตุ้นให้หน่วยงานต่างๆ ได้ทำตามต่อไป

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ