“พิเชฐ” นำบีโอไอ-ไบโอเทค-สภาอุต-หอการค้าไทยบุกจีน โชว์ผลงานเด่น เมล็ดพันธุ์ พลังงานทดแทน เครื่องจักรกล และเครื่องมือแพทย์ พร้อมชวนนักธุรกิจแดนมังกรมาลงทุน ชูนโยบาย “เอกชนนำ-รัฐอำนวยความสะดวก”

ข่าวทั่วไป Monday September 21, 2015 15:46 —สำนักโฆษก

ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นำทีมนักวิชาการและนักธุรกิจไทยจากกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ บีโอไอ มหาวิทยาลัย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย และสมาคมเครื่องจักรกลไทย ร่วมประชุมการสนับสนุนความร่วมมือทางเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมในเวทีการถ่ายทอดเทคโนโลยีจีน-อาเซียนและนวัตกรรมร่วม ครั้งที่ 3 (The 3rd Forum on China-ASEAN Technology Transfer and Collaborative Innovation) จัดโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมกับรัฐบาลประชาชนแห่งมณฑลกว่างซี สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อนำเสนอศักยภาพและสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนและการดำเนินธุรกิจของจีน โดยนำเสนอผลงานด้านเมล็ดพันธุ์ พลังงานทดแทน เครื่องจักรกลไทย และเครื่องมือแพทย์ อีกทั้งเป็นการจับคู่และสร้างความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างนักธุรกิจไทยกับนักธุรกิจจากจีนและอาเซียน ณ โรงแรม Guanxi Wharton International นครหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 17-21 กันยายน 2558

ดร.พิเชฐ กล่าวว่า ไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนมีความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในหลายระดับ ทั้งระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กับกระทรวงต่างประเทศและกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯของไทย ซึ่งมีกิจกรรมที่ดำเนินการร่วมกันจำนวนมาก โดยเฉพาะการสนับสนุนให้ภาคเอกชนของทั้งสองประเทศร่วมงานกันในด้านผลงานนวัตกรรม นอกจากนี้ประเทศไทยกำลังดำเนินนโยบายที่สอดรับกับการสนับสนุนให้เกิดการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) ทั้งในด้านการเพิ่มการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาสู่เป้าหมาย 1% ของจีดีพี ซึ่งจะยกให้เอกชนเป็นแกนหลักในขณะที่หน่วยงานภาครัฐจะทำหน้าที่สนับสนุนและอำนวยความสะดวก ด้านการพัฒนากำลังคน วทน. โดยสร้างรูปแบบการพัฒนาใหม่ๆ อาทิ การศึกษาด้านสะเต็ม (STEM) การเรียนรู้ร่วมกับการทำงาน สหกิจศึกษา ซึ่งจะช่วยภาคเอกชนในการดึงคนที่มีความสามารถเข้าทำงานแบบเชิงรุกด้วยเช่นกันนอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังให้ความสำคัญกับการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับภาคเอกชน ซึ่งได้จัดกลไกสนับสนุนต่างๆ อาทิ แพ็คเกจของบีโอไอ การหักลดหย่อยภาษีค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนา การสนับสนุนเงินทุนเพื่อการพัฒนา การจัดระบบการให้คำปรึกษาเชิงเทคนิค การสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น การบูรณาการงานห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ทดสอบคุณภาพและมาตรฐาน รวมถึงอุทยานวิทยาศาสตร์ เป็นต้น

“ความร่วมมือระหว่างไทยและจีนสำคัญมากสำหรับภูมิภาคนี้ ซึ่งจีนเป็นประเทศผู้นำของโลกทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจ เรามีหลายสิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยนและเรียนรู้กันและกัน ประเทศไทยมีประชากร 67 ล้านคนและปลายปีนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของอาเซียน ซึ่งจะทำให้ประชากรของเรามีขนาดใหญ่ถึง 600ล้านคน เรามีตลาดขนาดใหญ่ มีทรัพย์สินทางปัญญาและนักวิจัยจำนวนมาก มีหลายสิ่งที่จีนสามารถร่วมกับประเทศอาเซียนได้ เพื่อให้เกิดภูมิภาคที่สงบและมั่นคง และในวิกฤตการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตความร่วมมือระหว่างไทยจีนจะสามารถช่วยภูมิภาคนี้และโลกใบนี้ได้” ดร.พิเชฐ กล่าว

นอกจากนี้ ภายในงานยังเปิดให้มีการเจรจาธุรกิจระหว่างไทยและจีน รวมถึงการบรรยายสถานภาพและความต้องการทางธุรกิจจากนักวิชาการ ผู้แทนภาครัฐและนักธุรกิจไทย เพื่อเชิญชวนนักธุรกิจจีนมาร่วมลงทุนในตลาดนวัตกรรมไทย เช่น การบรรยายเรื่องนโยบายสนับสนุนผู้ประกอบการจีนในประเทศไทย โดย คุณบุษราคัม ศรีรัตนา ผู้อำนวยการกองความร่วมมือการลงทุนต่างประเทศของบีโอไอ เรื่องสถานภาพการพัฒนาธุรกิจเมล็ดพันธุ์ โดย ศาสตราจารย์ ดร.มรกต ตันติเจริญ ที่ปรึกษาอาวุโสของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่องสถานภาพการพัฒนาพลังงานชีวมวล โดย คุณทักษ์สุตา ถิ่นสันติสุข ผู้จัดการบริษัท Zero Waste จำกัดในฐานะผู้แทนของสภาอุสาหกรรมแห่งประเทศไทย และเรื่องอื่นๆ เช่น การสนับสนุนฟาร์มสาธิตยุคใหม่และสถานีขนส่งอ้อยโดยมิตรผล สถานภาพการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า หุ่นยนต์ผ่าตัดโรคลำไส้ และเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น

ผู้ประสานงาน : กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3728 - 3732 โทรสาร 0 2333 3834

e-mail : pr@most.go.th

Facebook : sciencethailand

Call Center กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โทร.1313

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ