โฆษกรัฐบาลเผยนายกรัฐมนตรีย้ำกระทรวง ทบวง กรม กำกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ชี้แจงในการแปลงนโยบายรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติกับประชาชนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

ข่าวทั่วไป Tuesday November 17, 2015 10:36 —สำนักโฆษก

วันนี้ (17 ส.ค.58) เวลา 13.30 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุมฯ ถึงเรื่องที่นายกรัฐมนตรีปรารภและสั่งการต่อที่ประชุมฯ เกี่ยวกับเรื่องการเดินทางลงพื้นที่ในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างว่า จากการได้ลงพื้นที่ดังกล่าวเรื่องประชารัฐเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจและมีการพูดคุยกันในระดับพื้นที่ค่อนข้างมาก ซึ่งนายกรัฐมนตรี มั่นใจว่านโยบายจากส่วนกลางผ่านกระทรวง ทบวง กรม และลงไปสู่ในระดับพื้นที่โดยเฉพาะระดับผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ มีความชัดเจนไม่คลาดเคลื่อนจากสิ่งที่รัฐบาลได้กำหนด อย่างไรก็ดีในระดับแนวระนาบที่จะต้องอาศัยข้าราชการในการประสานงานพบปะพูดคุยให้คำแนะนำ ชี้แจงหรือเสนอแนะกับประชาชนยังมีปัญหา นายกรัฐมนตรี จึงมอบหมายให้กระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ ที่เป็นผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าในระดับที่อยู่ในพื้นที่ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยคือผู้ว่าราชการจังหวัด ไปกำกับดูแลเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ เหล่านั้น เพื่อให้การชี้แจงและการอธิบายความและเสนอแนะเกิดผลเป็นรูปธรรมเกิดประโยชย์กับประชาชนอย่างแท้จริง

นอกจากนี้จากการที่ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ ได้มีโอกาสพบปะกับประชาชนโดยเฉพาะเกษตรกร ทำให้ได้รับทราบว่ามีปัญหาเกิดขึ้นกับเกษตรกร เช่น เรื่องเมล็ดพันธุ์พืชมีไม่เพียงพอ ซึ่งภาครัฐที่จะสนับสนุนการผลิตในเรื่องของเมล็ดพันธุ์ก็ไม่เพียงพอ ทำให้ต้องไปซื้อจากบริษัทเอกชนซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง ดังนั้นเป็นไปได้หรือไม่ ที่หน่วยงานในพื้นที่จะดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นธนาคารเมล็ดพันธุ์พืช ธนาคารปุ๋ย หรือสิ่งที่จะเป็นปัจจัยการผลิต โดยเฉพาะกรณีที่เกษตรกรได้ยืมสิ่งต่าง ๆ ไปแล้ว อาจจะไม่มีสิ่งดังกล่าวมาใช้คืนแต่อาจจะใช้เป็นปัจจัยการผลิตอย่างอื่นแทนได้หรือไม่ จึงขอให้ลองพิจารณาให้สามารถที่จะดำเนินไปได้และสอดรับกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ และให้มีความยืดหยุ่น

ส่วนกรณีเรื่องของการรวมแปลงเกษตรแปลงใหญ่ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้เกษตรกรได้ปลูกพืชหรือผลิตผลทางการเกษตรโดยการรวมแปลงใหญ่ เนื่องจากรัฐบาลมีโครงการในการที่จะสนับสนุนเครื่องมือและเครื่องจักรกล เพื่อใช้ในการผลิตของภาคเกษตรนั้น แต่การรวมแปลงเกษตรแปลงใหญ่ที่เกิดขึ้นเป็นการรวมกันโดยไม่ได้มีการประสานในรายละเอียดว่ามีปัญหาข้อขัดข้องเกิดขึ้นอย่างไรบ้าง ทำให้ผลผลิตไม่ได้คุณภาพตามมาตรฐานและส่งผลต่อกำไรหรือผลตอบแทนที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญที่นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่าในระดับเจ้าหน้าที่ที่แปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติต้องรับฟังปัญหาเหล่านี้ของเกษตรกรเพื่อจะได้แก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง

สำหรับเรื่องของการส่งเสริมสนับสนุนให้ภาคการผลิตในระดับพื้นที่ขับเคลื่อนไปได้ต้องให้เกิดความหลากหลาย ทั้งในส่วนของภาคผู้ผลิต การแปรรูป และภาคของการนำผลผลิตไปจำหน่ายในตลาด อย่างไรก็ตามการดำเนินการดังกล่าวต้องเป็นไปอย่างเหมาะสมมีความสมดุลไม่เน้นหนักไปเพียงด้านหนึ่งด้านใดเท่านั้น และจะต้องดำเนินการให้เป็นไปอย่างเชื่อมโยงกัน 3 ด้านครบวงจรทั้งระบบ พร้อมทั้งเน้นย้ำให้กระทรวงมหาดไทย กำกับไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และย้ำให้กระทรวง ทบวง กรม กำกับไปยังเจ้าหน้าที่ของแต่ละกระทรวงที่อยู่ในระดับพื้นที่ เกษตรจังหวัด และพาณิชย์จังหวัด ฯลฯ เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ตรงกับความต้องการของประชาชนและเกษตรกร เป็นต้น

------------------------

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ