รมว.พม. กำชับเจ้าหน้าที่เร่งติดตามเยียวยาเด็กหญิงชาวเมียนมาร์ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ที่จังหวัดปัตตานี พร้อมวอนครอบครัวหาทางออกร่วมกันเพื่อป้องกันการทิ้งเด็กทารกรายวัน

ข่าวทั่วไป Tuesday October 13, 2015 14:55 —สำนักโฆษก

วันนี้ (๑๓ ต.ค. ๕๘) เวลา ๐๘.๐๐ น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.)เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.)ครั้งที่ ๒๖๐/๒๕๕๗-๒๕๕๘ เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปัตตานี (สนง.พมจ.ปัตตานี)และหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ลงพื้นที่บริเวณห้องเช่าภายในซอยนาเกลือ ๓๓ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เพื่อเข้าช่วยเหลือเด็กหญิงชาวเมียนมาร์ อายุ ๑๓ ปี ที่หลบหนีออกจากที่สถานที่กักขัง ออกมาขอความช่วยเหลือหน่วยงานในพื้นที่ ภายหลังถูกเกลี่ยกล่อมให้ขายบริการทางเพศและกำลังจะถูกส่งตัวขายต่อให้กับนายหน้าค้ามนุษย์ ทั้งนี้ สนง.พมจ.ปัตตานี ได้ประสานทีมสหวิชาชีพเข้าร่วมกระบวนการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ประกอบด้วย ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัดปัตตานี บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปัตตานี ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดปัตตานี ตำรวจภูธรเมืองปัตตานี พนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ล่ามแปลภาษาชาวเมียนมาร์จากมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) และล่ามแปลภาษาที่ได้รับการสนับสนุนจากตรวจคนเข้าเมือง พบว่า เด็กหญิงดังกล่าวตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ซึ่งขณะนี้ผู้เสียหายดังกล่าวได้อยู่ในความดูแลคุ้มครองของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปัตตานี อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือดูแล คุ้มครอง และเยียวยาผู้เสียหายอย่างเต็มที่ตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีพบเด็กทารกแรกเกิดเพศหญิง ยังมีสายสะดือยังติดหน้าท้อง ถูกยัดใส่กล่องรองเท้าแล้วนำมาทิ้งไว้หน้าร้านขายอาหารตามสั่งแห่งหนึ่งบริเวณประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังของจังหวัดเชียงราย แต่โชคดีมีชาวบ้านเห็นและนำส่งโรงพยาบาลได้ทัน และกรณีพบศพเด็กทารกเพศชาย อายุครรภ์ประมาณ ๙ เดือน ยังมีสายสะดือติดอยู่ที่หน้าท้อง ภายในห้องน้ำของสถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต กรุงเทพฯ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ ๓ วัน ตนมีความห่วงใยปัญหาเด็กทารกถูกทิ้งรายวัน ได้เร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและเก็บรวบรวมข้อมูลสถิติ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาดังกล่าว และเร่งป้องกันแก้ไขปัญหาในระยะยาว เนื่องจากมีการนำเสนอข่าวดังกล่าวผ่าน สื่อมวลชนเป็นประจำ นับว่าเป็นปัญหาสังคมที่ต้องเร่งช่วยกันเฝ้าระวังและป้องกันแก้ไข จึงขอให้สังคมได้ร่วมกันตระหนัก ถึงผลกระทบที่จะเกิดจากการตั้งครรภ์ไม่พร้อม และกระทรวงฯ พร้อมเพิ่มช่องทางการเข้าถึงการขอความช่วยเหลือและ คำปรึกษาแนะนำในการแก้ไขปัญหา ผ่านสายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCCโทร.๑๓๐๐ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง และที่สำคัญผู้ปกครองควรให้ความรักความอบอุ่นแก่บุตรหลาน สร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับความพร้อมในการมีครอบครัว หากบุตรหลานในครอบครัวเกิดปัญหาดังกล่าว ควรปรึกษาพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกันโดยเร็ว

"สำหรับกรณีเด็กหญิง อายุ ๑๓ ปี อาศัยอยู่กับพ่อ อายุ ๕๓ ปี พิการเป็นใบ้ขาข้างซ้ายหัก และแม่ อายุ ๔๗ ปี ขาข้างขวาพิการ อาศัยอยู่ในกระท่อมสภาพเก่าทุดโทรม ครอบครัวมีฐานะยากจน ไม่มีเงินส่งให้เรียนจึงเรียนไม่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเพชรบูรณ์(พมจ.เพชรบูรณ์)ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจกระทรวงฯ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้านการศึกษาให้เด็กในระยะยาว และปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยให้ถูกสุขลักษณะเหมาะสำหรับคนพิการ”พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ