นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคใต้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว อย่างไรก็ตามปัญหาหมอกควันอาจจะกลับมาได้ตลอดเวลาเนื่องจากเข้าสู่ฤดูหนาว อากาศแห้ง มีไฟป่าเกิดขึ้นได้ง่าย รวมทั้งจะมีบางส่วนเผาทำลายวัชพืชภายหลังเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะในภาคเหนือ ที่มีปัญหาในพื้นที่ทุกปี ซึ่งค่าปริมาณฝุ่นละอองที่เกินค่ามาตรฐาน จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน สอดคล้องกับ ข้อมูลสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข ที่โรคระบบทางเดินหายใจ เป็นสาเหตุการป่วยอันดับ 1 ของคนไทยในแผนกผู้ป่วยนอก ติดต่อกัน 5 ปี (พ.ศ.2550-2555)
นายแพทย์โสภณ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้บูรณาการการทำงานและทำงานอย่างใกล้ชิดกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหามาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ดำเนินการดังนี้ 1.ให้พื้นที่ที่มีปัญหาภัยจากหมอกควัน สำรวจและจัดทำทะเบียนประชากรเสี่ยงในชุมชน ได้แก่ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ รวมทั้งผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ ขณะดำเนินการไปแล้วใน 2.จัดระบบเฝ้าระวังและรายงานเป็นรอบปีตามฤดูเพื่อความพร้อมในการเตรียมการช่วยเหลือประชาชน ทั้งด้านการรักษาพยาบาล การจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ การออกให้คำแนะนำประชาชน ยาและเวชภัณฑ์จำเป็น เช่น หน้ากากอนามัย 3. ให้โรงพยาบาลในพื้นที่เสี่ยง จัดเตรียม “ห้องสะอาด”หรือคลีนรูม (Clean room) รองรับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง ซึ่งโรงพยาบาลส่วนใหญ่มีอยู่แล้ว โดยอาจจะดัดแปลงห้องประชุมหรือห้องที่โล่ง แต่มีประตูหน้าต่างมิดชิด มีระบบปรับอากาศแบบมีตัวกรองอากาศ และเตรียมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำ“ห้องสะอาด”ในชุมชน รองรับกลุ่มเสี่ยงในชุมชน ที่ไม่สามารถจัดทำ ห้องสะอาดในบ้านได้
ทั้งนี้ ในส่วนของประชาชนทุกบ้านสามารถจัดทำ “ห้องสะอาด” ไว้ในบ้านได้ เพื่อรองรับทุกคน รวมทั้งกลุ่มเสี่ยงป่วยง่าย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีปัญหาภัยจากหมอกควันเป็นประจำ เช่น จังหวัดทางภาคเหนือตอนบน ภาคใต้ตอนล่าง รวมทั้งพื้นที่ที่มีการทำอุตสาหกรรมที่มีฝุ่นละอองจำนวนมาก ทำได้ง่ายๆ โดยหาห้องโล่งๆในบ้าน ที่มีเฟอร์นิเจอร์น้อย มีประตูหน้าต่างมิดชิด ถ้ามีระบบปรับอากาศที่ติดตัวกรองอากาศก็จะช่วยได้มาก ส่วนวิธีการทำความสะอาดภายในบ้าน ขอให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด ไม่ปัดให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย ไม่จุดธูปเทียนในบ้าน ไม่เผาขยะ หรืออาจใช้วิธีฉีดละอองน้ำเพื่อลดฝุ่นละออง
********************************** 26 ตุลาคม 2558
ที่มา: http://www.thaigov.go.th