หม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ นโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน (กนร.) ครั้งที่ 1/2559 โดยมี พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานฯ ว่า ที่ประชุมพิจารณา เรื่องการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวในกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ แนวทางการจัดระบบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม ได้แก่ การผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติเวียดนามทำงานได้ชั่วคราว แนวทางการนำเข้าแรงงานเวียดนาม และการออกกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบในแนวทางการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวในกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ โดยให้เปิดจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำ โดยกำหนดให้ 22 จังหวัดที่มีพื้นที่ติดทะเลและกรุงเทพมหานคร (4 มุมเมือง) เป็นศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service)
ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ที่ประชุมเห็นชอบให้ออกกฎกระทรวงใหม่ ลดอัตราค่าธรรมเนียม การตรวจลงตรา (Visa) จากเดิม 2,000 บาทเหลือ 500 บาท ของเมียนมา ลาว กัมพูชา และเวียดนาม กำหนดใช้บังคับเป็นเวลา 4 ปี และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงแรงงาน ดำเนินการตามภารกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2558 นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบกับแนวทางการผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติเวียดนามทำงานได้ชั่วคราว โดยผ่อนผันให้แรงงานเวียดนามจดทะเบียนทำงานได้ 1 ปี แต่ต้องเข้าประเทศไทยมาก่อนวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2558 และระยะเวลาการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรต้องสิ้นสุดลง
“การผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติเวียดนามทำงานได้ชั่วคราวในงานกรรมกร ก่อสร้าง ประมง และงานบริการร้านอาหาร แนวทางการนำเข้าแรงงานเวียดนาม จะมีการเปิดให้จดทะเบียนตามที่ MOU ได้มีการตกลงกัน อาทิ การลดค่าธรรมเนียม จากเดิม 2,000 บาท เหลือ 500 บาท โดยจะมีแนวปฏิบัติที่ใกล้เคียงกันระหว่างทั้ง 3 สัญชาติ (เมียนมา ลาว กัมพูชา) ที่ได้มีการเปิดมาแล้ว โดยจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2558 เพื่อที่จะดำเนินการให้มีการจดทะเบียนโดยเร็ว และหาก ครม. เห็นชอบแล้วจะกำหนดวันที่จะเปิดให้ลงทะเบียนต่อไป ทั้งนี้ การจดทะเบียนของเวียดนามจะเปิดให้จดทะเบียนในทุกจังหวัด อย่างไรก็ตาม การเปิดจะดำเนินการภายในเดือนพฤศจิกายน 2558 แน่นอน” ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าว
สำหรับการดำเนินการของเวียดนาม แจ้งว่าจะมอบหมายให้บริษัทจัดหางานเวียดนาม จำนวน 10 บริษัท เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่จัดส่งแรงงานมาทำงานในประเทศไทย ส่วนการดำเนินงานของไทย ยังอยู่ระหว่างพิจารณา ซึ่งอาจดำเนินการตามแนวทางที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2558 โดยมอบหมายให้สมาคมการประมงแห่งประเทศไทยประสานการดำเนินงานกับบริษัทจัดหางาน กรณีนำเข้าแรงงานประมง สำหรับการนำเข้าแรงงานก่อสร้าง ดำเนินการในลักษณะเดียวกับแรงงานประมง โดยให้สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์เป็นผู้ประสานงานซึ่งจะได้เชิญผู้แทนสมาคมทั้ง 2 แห่ง มาหารืออีกครั้งเพื่อกำหนดรูปแบบการดำเนินการท้ายสุด ปลัดกระทรวงแรงงาน ได้เน้นย้ำในเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น เอาจริงกับการตรวจการใช้แรงงาน และการบังคับใช้กฎหมาย จะใช้มาตรการลงโทษโดยใช้อัตราโทษสูงสุด
+++++++++++++++++++
“OUR HOME OUR COUNTRY TOGETHER STRONGER"
"เราจะเติบโตและแข็งแกร่งไปด้วยกัน เพราะที่นี่คือ บ้านของเรา ประเทศไทยของเรา"
ที่มา: http://www.thaigov.go.th