พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า ตามที่นายจักร บุญ-หลง เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงออสโล ราชอาณาจักรนอร์เวย์ ได้เข้าเยี่ยมคารวะและหารือกับตนอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (๑๖ พ.ย.๕๘) ตนได้ตอบรับคำเชิญของเอกอัครราชทูตฯ และเครือข่ายหญิงไทย ไปเป็นประธานในการประชุมเครือข่ายหญิงไทยในยุโรป ปี ๒๕๕๙ ณ ราชอาณาจักรนอร์เวย์ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายอาสาสมัครหญิงไทยในต่างประเทศ และสนับสนุนการดำเนินงานของเครือข่าย อีกทั้ง ตนเห็นด้วยกับข้อเสนอโครงการอบรมให้ความรู้แก่หญิงไทยก่อนเดินทางไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับแผนงานโครงการที่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ได้ดำเนินการอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการบูรณาการภารกิจของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ตนจึงได้มอบหมายให้ สค.กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) และกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ไปทบทวนภารกิจดังกล่าวที่เกี่ยวข้อง แล้วจัดทำโครงการต่างๆ เช่น การอบรมให้ความรู้และเตรียมความพร้อมแก่ หญิงไทย และลูกติดแม่ ที่จะเดินทางไปใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศ พร้อมทั้งจัดสวัสดิการสังคมสำหรับคนไทยในต่างประเทศ และการจดทะเบียนเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ เพื่อให้เห็นผลเป็นรูปธรรมและเกิดประโยชน์ต่อหญิงไทยและ "ลูกติดแม่” ที่อยู่ในต่างประเทศ
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีความคืบหน้าคดีค้าประเวณีเด็กอายุไม่เกิน ๑๕ ปี ที่จังหวัดเชียงใหม่ ล่าสุด ผู้ปกครองนำเยาวชนหญิงอายุ ๑๗ ปี ที่อยู่ในกลุ่ม แม่เล้าจิ๋ว มอบตัวอีก ๒ คน ซึ่งถูกดำเนินคดีข้อหาค้ามนุษย์ด้วย ซึ่งเท่ากับผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับทั้งหมด ๒๓ คน ได้ตัวมาดำเนินคดีแล้ว ๑๗ คน นั้น ตนมีความห่วงใยปัญหาการค้าประเวณีในเด็กและเยาวชน ที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน จึงฝากไปยังครอบครัวและผู้ปกครองให้อบรมดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้ความรักความอบอุ่น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนไปทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ติดตามกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th