รมว.พม.เร่งหาแนวทางและมาตรการป้องกันปัญหาเด็กทารกถูกทิ้งรายวัน และการใช้ความรุนแรงในวัยรุ่น

ข่าวทั่วไป Wednesday November 25, 2015 14:40 —สำนักโฆษก

วันนี้ (๒๕ พ.ย. ๕๘) เวลา ๐๘.๓๐ น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ ๒๙๐/๒๕๕๗-๒๕๕๘ เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีพบศพเด็กทารกเพศชาย อายุครรภ์ ๙ เดือน ยังมีสายรกติดอยู่ ถูกทิ้งอยู่ในร่องน้ำทิ้งหลังห้องน้ำภายในตลาดแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดนครปฐม เบื้องต้นคาดว่าเป็นแม่วัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อมแอบทำแท้งแล้วนำมาทิ้งไว้ ตนมีความห่วงใยปัญหาเด็กทารกถูกทิ้งรายวัน เนื่องจากมีสถิติเกิดขึ้นเกือบทุกวัน เป็นปัญหาสังคมที่ต้องช่วยกันแก้ไข และตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดจากการตั้งครรภ์ไม่พร้อม และกระทรวงฯ พร้อมเพิ่มช่องทางการเข้าถึงข้อมูล เพื่อขอความช่วยเหลือหรือขอคำปรึกษาแก้ไขปัญหาเมื่อตั้งครรภ์ไม่พร้อม ผ่านสายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC โทร.๑๓๐๐ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง พร้อมนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางและมาตรการการป้องกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว เนื่องจากสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาในครอบครัวที่ไม่จะเลี้ยงดูบุตร และเห็นว่าผู้ปกครองควรชี้แนะบุตรหลานสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับความพร้อมในการมีครอบครัว การสร้างความรักความอบอุ่นในครอบครัว หากบุคคลในครอบครัวเกิดปัญหาก็ควรหันหน้าเข้าหากัน พูดคุยหาทางออกร่วมกัน ทั้งนี้ เพื่อหวังเป็นการลดปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีมีกลุ่มนักเรียนต่างสถาบันจำนวน ๑๐ ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกัน โดยใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกายกันจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ๔ คน อายุ ๑๖-๑๘ ปี ที่บริเวณริมถนนแห่งหนึ่ง ย่านห้วยขวาง กรุงเทพฯ ตนมีความห่วงใยปัญหาดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นในกลุ่มเด็กและเยาวชนในสังคม มีความรุนแรงมากขึ้น โดยมีการนำเสนอในสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง จึงขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังปัญหาความรุนแรงดังกล่าว และเร่งหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมแนะนำให้ผู้ปกครองควรเข้ามาป้องกันและแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยสอดส่องดูแลพฤติกรรมบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ให้ความรักความอบอุ่นในครอบครัว และอบรมสั่งสอนปลูกฝังจิตสำนึกและค่านิยมที่ดี ไม่ให้บุตรหลานถูกชักจูงไปทำในสิ่งที่ไม่ดีไม่ถูกต้อง เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในการใช้ชีวิตที่ถูกต้องและเหมาะสมในสังคม ส่งผลไม่ก่อให้เกิดปัญหาสังคมอื่นๆ ตามมา

"จากกรณีหญิงอายุ ๔๐ ปี พิการตาบอดสนิททั้งสองข้าง ต้องรับภาระเลี้ยงดูยายที่แก่ชราอายุ ๙๗ ปี และหลานสาว อายุ ๒๕ ปี ที่พิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ มานานกว่า ๑๐ ปี มีเพียงเงินจากเบี้ยความพิการและผู้สูงอายุ เดือนละ ๒,๖๐๐ บาท ใช้ยังชีพ ๓ ชีวิต ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบุรีรัมย์ (พมจ.บุรีรัมย์) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงฯ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลในระยะยาวต่อไป” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวในตอนท้าย.

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ