อีกทั้งที่ประชุมยังมีความชัดเจนในเรื่องของเนื้องานที่ส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องจะต้องไปสำรวจก่อนนำข้อมูลกลับมาแจ้งให้คณะทำงานขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาราคายางพาราทราบว่าแต่ละส่วนราชการจะสามารถนำยางพาราซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้องค์การคลังสินค้าเป็นคนกลางรับซื้อไปใช้ได้ในจำนวนหรือปริมาณเท่าใด อย่างไร เป็นต้น โดยจะมีการประชุมหารือเรื่องดังกล่าวอีกครั้งในวันศุกร์ (15ม.ค.59) เวลา 09.00 น. ณ ทำเนียบรัฐบาล อย่างไรก็ตามข้อมูลทั้งหมดที่คณะทำงานขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาราคายางพาราได้มีการหารือวันนี้รวมทั้งเรื่องราคาที่จะรับซื้อยางตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเพดานไว้เมื่อวานนี้ที่ราคา 60 บาท/กิโลกรัม จะนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิ คณะที่ 5 ฯ ซึ่งมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี รองประธาน พิจารณาในวันพรุ่งนี้ (14ม.ค.59) ส่วนวงเงินรับซื้อยางจำนวนเท่าไรนั้นขอให้ทางคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่5 ฯ ได้พิจารณาอีกครั้งก่อนชี้แจ้งให้รับทราบต่อไป
อย่างไรก็ตามเมื่อวานนี้ (12ม.ค.59) ภายหลังจากที่ได้มีการหารือพูดคุยกับกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรในพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมดได้ข้อยุติว่า เกษตรกรดังกล่าวยอมรับในข้อเสนอและสิ่งที่นายกรัฐมนตรีจะแก้ไขปัญหายางพาราให้ในระยะเบื้องต้นจำนวน 100,000 ตัน โดยตรงนี้องค์การคลังสินค้าจะเข้าไปดำเนินการรับซื้อยางจำนวนดังกล่าวต่อไป ส่วนราคาหรือวงเงินในการรับซื้อกิโลกรัมละ 60 บาท เป็นเพดานสูงที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบไว้ ซึ่งในเรื่องของการรับซื้อยางเกษตรกรก็ไม่ได้กดดันรัฐบาลแต่อย่างใด เพียงแต่ขออย่าให้ราคาต่ำมากและให้สูงกว่าราคาที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ส่วนจะเป็นราคาเท่าไรเกษตรกรรับได้ เพราะฉะนั้นเรื่องราคารับซื้อยางพรุ่งนี้จะมีการนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่5 ฯ พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อยุติที่ชัดเจนในการดำเนินการ ขณะที่เรื่องของกระบวนการบริหารจัดการ โดยเฉพาะกรณีที่เกษตรกรที่จะเข้ามาร่วมโครงการครั้งนี้ จะมีการสำรวจและยืนยันตัวเกษตรกรอีกครั้งโดยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้ง คสช. กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องการจ่ายเงินชดเชยช่วยเหลือที่นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายและวงเงินไว้ ไร่ละ 1,500 บาทแล้ว ซึ่งปัจจุบันยังติดขัดอยู่ส่วนหนึ่ง ดังนั้นการลงพื้นที่ของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครั้งนี้จะสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งการจ่ายเงิน ไร่ละ 1,500 บาท ให้ตกถึงมือเกษตรกรภายในสิ้นเดือนนี้ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี รวมทั้งเกษตรกรสามารถที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากโครงการรับซื้อยางพารา จำนวน 100,000 ตัน โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางอีกด้วย
ทั้งนี้ภายหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่5 ฯ ซึ่งมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ เห็นชอบแล้ว สัปดาห์หน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่สำรวจทันทีซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาสำรวจไม่เกิน 2 สัปดาห์
ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในเชิงนโยบายโดยมีบัญชาให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ และการประชุมหารือวันนี้ก็เป็นการพิจารณาลงไปในรายละเอียดว่าแต่ละส่วนราชการจะนำนโยบายไปปฏิบัติในรูปแบบใด และมีปัญหาอุปสรรคข้อขัดข้องเรื่องใดบ้าง หากพบว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคคณะทำงานขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาราคายางพาราจะเป็นคนกลางในการนำปัญหาอุปสรรคดังกล่าวเสนอผู้ที่มีอำนาจเพื่อไปสู่การแก้ไขปัญหาต่อไป เพราะปัญหาอุปสรรคบางเรื่องอาจจะเกี่ยวข้องกับหลายส่วนราชการซึ่งคณะทำงานขับเคลื่อนฯ ต้องรับตรงนี้เพื่อไปผลักดันขับเคลื่อนต่อไป
-------------------
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th