วันนี้ (25 ม.ค.59) เวลา 13.30 น. ณ ห้องเพลนนารี่ ฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 2559” ในงานสัมมนาประจำปี F.T.I. OUTLOOK 2016 : ทิศทางอุตสาหกรรมไทย 2559 ซึ่งจัดโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และคณะผู้จัดงานให้การต้อนรับ
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 2559”สรุปสาระสำคัญตอนหนึ่งว่า นโยบายของรัฐบาลที่นำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจสามารถเดินไปได้ดี เพราะมีภาคเอกชนและหลายฝ่ายเข้ามาร่วม โดยที่ผ่านมาภาครัฐและภาคเอกชนได้มีการหารือกันอยู่ตลอด ทั้งนี้ จากปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทำให้การพัฒนาประเทศเป็นไปอย่างล่าช้า และการพัฒนาต้องอาศัยรายได้ที่มาจากการค้า การลงทุน การส่งออก ซึ่งปีที่ผ่านมาประเทศไทยสามารถประคับประคองเศรษฐกิจมาได้ในระดับที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังมีอีกหลายปัญหาที่ต้องแก้ไขนอกจากเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งต้องจัดลำดับความสำคัญในการแก้ปัญหา และต้องพลิกวิกฤติเป็นโอกาสในการสร้างความเข้มแข็ง โดยอาศัยความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการทำงานของภาครัฐว่าได้มีการวางแผนไว้หมดแล้ว โดยรัฐบาลจะบริหารราชการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ด้านการพัฒนาตามโรดแมป ที่ขณะนี้อยู่ในช่วงที่สองของโรดแมปที่วางไว้ โดยรัฐบาลได้ออกกฎหมายที่ทันสมัยเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าการลงทุน ทั้ง พ.ร.บ.อำนวยความสะดวก พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสาร และมีองค์กรต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นภาครัฐ เพื่อวางพื้นฐานและสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจในระยะยาว ทั้งนี้ ทุกฝ่ายจะต้องช่วยกันลดความขัดแย้งและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยรัฐบาลพร้อมจะรับฟังความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ และต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการทำงานร่วมกัน พร้อมกับต้องสร้างความเชื่อมโยงและความร่วมมือในอาเซียน วันนี้ทุกประเทศมีความมั่นคงเพราะมียุทธศาสตร์การลงทุน ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงที่ชัดเจน แต่เรายังทำน้อย ซึ่งต้องหาทางให้รัฐบาลต่อไปได้เข้ามาทำต่อ
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ารัฐบาลจะเดินหน้าในการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทั้งทางน้ำ ทางอากาศ และทางบกเพื่อสร้างความเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เชิงอนุรักษ์ ซึ่งในการดำเนินงานด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งของเศรษฐกิจประเทศ จะต้องแสวงหาความร่วมมือกับเพื่อนบ้าน พร้อมกับจะต้องทำให้ประเทศไทยได้มีบทบาทในเวทีโลก เพื่อให้เกิดความร่วมมือจากกองทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะช่วยทำให้เส้นทางเชื่อมต่อระหว่างประเทศเชื่อมถึงกันได้
---------------------------------
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th