ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี 2558 สาขาการแพทย์ และสาขาการสาธารณสุข เข้าเยี่ยมนายกรัฐมนตรี

ข่าวทั่วไป Friday January 29, 2016 14:33 —สำนักโฆษก

วันนี้ (29 มกราคม 59) เวลา 15.00 น. ศาสตราจารย์นายแพทย์มอร์ตัน เอ็ม มาวเวอร์ (Professor Morton M. Mower) ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี 2558 สาขาการแพทย์ และเซอร์ไมเคิล กิเดียน มาร์มอต (Sir Michael Gideon Marmot) ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี 2558 สาขาการสาธารณสุข เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการสนทนา พลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวสรุปสาระสำคัญการสนทนาดังนี้

นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีแก่ทั้งสองท่านที่ได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลซึ่งถือเป็นเกียรติยศอันสูงส่ง พร้อมชื่นชมในการอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยทั่วโลก ประเทศไทยให้ความสำคัญอย่างมากกับการส่งเสริมวิวัฒนาการด้านการแพทย์ และการสาธารณสุขซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศ และถือเป็นกุญแจสำคัญในการดำเนินนโยบายด้านความมั่นคงของมนุษย์ ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาลนี้มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบการแพทย์ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างทั่วถึง

นายแพทย์มอร์ตัน เอ็ม มาวเวอร์ ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี 2558 สาขาการแพทย์ และเซอร์ไมเคิล กิเดียน มาร์มอต ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี ๒๕๕๘ สาขาการสาธารณสุข ต่างมีความยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลเจ้าฟ้ามหิดล ซึ่งถือเป็นรางวัลที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่ตนเองแต่ยังเป็นประโยชน์ต่อวงการแพทย์ และสาธารณสุข

โอกาสนี้นายแพทย์มาวเวอร์ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนายกรัฐมนตรีในเรื่องน้ำ โดยเห็นว่าปัญหาสำคัญของประเทศอาเซียนคือการขาดแคลนน้ำ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน และมุ่งหวังให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงการมีน้ำสะอาด ภายในปี 2560

เซอร์ไมเคิล กิเดียน มาร์มอต เห็นว่าในการพัฒนาด้านสาธารณสุข กลไกการทำงานของรัฐบาลถือเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งนายกรัฐมนตรียินดีที่ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมระหว่างไทยกับ สหราชอาณาจักรมีพัฒนาการอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายด้านวิทยาศาสตร์ของไทย โดยรัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันจัดตั้ง “กองทุนความร่วมมือนิวตัน” ทำให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์จากการที่มีบุคลากรที่มีศักยภาพด้านวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสวัสดิการสังคมเพิ่มขึ้น

นายกรัฐมนตรียืนยันว่ารัฐบาลพร้อมส่งเสริมความร่วมมือด้านการแพทย์และสาธารณสุขกับสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักรอย่างใกล้ชิด เพื่อการพัฒนาขีดความสามารถด้านการแพทย์และการสาธารณสุขของไทยและประเทศในภูมิภาคเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน

ในการนี้ นายแพทย์มาวเวอร์ และเซอร์ไมเคิล กิเดียน มาร์มอต แสดงความชื่นชมนายกรัฐมนตรี โดยเห็นว่านายกรัฐมนตรีเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี มีการกินดีอยู่ดี และกล่าวว่าไม่เพียงแต่กระทรวงสาธารณสุข แต่ทุกกระทรวงไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมฯ กระทรวงศึกษาฯ ที่ต้องให้ความร่วมมือให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงการรักษาพยาบาล

นายกรัฐมนตรีย้ำว่าไทยมุ่งเน้นการพัฒนาการบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพในราคาสมเหตุสมผล ภายในประเทศให้ประชาชนไทยมีสุขภาพดี และพร้อมแสดงบทบาทสร้างสรรค์ในเวทีระหว่างประเทศเพื่อพัฒนาระบบสาธารณสุขที่มั่นคงปลอดภัย ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี ทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลก ในเรื่องหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (Universal Health Coverage – UHC) ไทยมีการดำเนินการที่ดี ซึ่งช่วยให้ประชาชนไทยสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์และยารักษาโรคที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสมได้ ที่ส่งผลในเชิงบวกต่อสุขภาพประชาชน และลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ทั้งนี้ ไทยพร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดี (best practices) ด้าน UHC กับประเทศต่างๆ เนื่องจากเล็งเห็นประโยชน์ต่อความมั่นคงของระบบสาธารณสุขระหว่างประเทศในภาพรวมหากประเทศต่างๆ สามารถพัฒนาระบบสาธารณสุขให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์และยารักษาโรคได้ทั่วถึง โดยได้จัดทำ “แผนยุทธศาสตร์สุขภาพโลก พ.ศ. ๒๕๕๘ –๒๕๖๓” (Thailand Global Health Strategies 2015 – 2020) ที่กำหนดแนวทางเสริมสร้างขีดความสามารถของบุคลากรและความเข้มแข็งในการเสริมสร้างระบบสาธารณสุขของไทย รวมทั้งการกำหนดทิศทางการดำเนินความร่วมมือด้านสาธารณสุขของไทยกับประเทศต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

หลังจากเสร็จสิ้นการหารือ นายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงน้ำชาเพื่อเป็นเกียรติแก่นายแพทย์มอร์ตัน เอ็ม มาวเวอร์ และเซอร์ไมเคิล กิเดียน มาร์มอต ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ