รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวรายงานว่า กระทรวงวัฒนธรรมได้รับมอบหมายเป็นเจ้าภาพในการจัดงานระหว่างวันที่ 1 - 26 กุมภาพันธ์ 2559 ซึ่งในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม ดำเนินนโยบายสนับสนุน ส่งเสริม และพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม รวมถึงการนำทุนทางวัฒนธรรมมาเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องจึงได้มีแนวคิดจัด " ตลาดวัฒนธรรม : ทุนวัฒนธรรมสร้างชาติ ตลาดวัฒนธรรมสร้างสุข" เพื่อนำผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมสร้างสรรค์จากทั่วประเทศ ผลงานศิลปะของศิลปินแห่งชาติ ศิลปินพื้นบ้าน ผลงานของนักศึกษาจากวิทยาลัยนาฏศิลป์และวิทยาลัยช่างศิลป์มาจัดจำหน่าย รวมถึงคัดเลือกสินค้าทางวัฒนธรรมจากช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ทั้งนี้ภายในงานจะมีการจัดประมูลผลงานของศิลปินแห่งชาติด้วย ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมจะมีการจัดงานรวมระยะเวลา 26 วัน โดยกระทรวงวัฒนธรรมจะนำ อัตลักษณ์วิถีถิ่น วิถีไทย วิถีโลก มาถ่ายทอด โดยงานนั้นจะแบ่งเป็น "วิถีถิ่น" รูปแบบงานจะแสดงถึงวิถีชีวิตดั้งเดิมของไทย เป็นเสน่ห์แสดงออกถึงมิตรไมตรีแบบไทย ในส่วนของ "วิถีไทย" แสดงถึงรูปแบบวัฒนธรรมที่งดงาม ประณีต วิจิตร มีเอกลักษณ์และโดดเด่น เป็นภาพสะท้อนความรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมไทยซึ่งนำของดีของเด่นของดังจาก 4 ภูมิภาค ส่วน "วิถีโลก" เป็นการจัดในรูปแบบวัฒนธรรมปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองกับรูปแบบวิถีชีวิตที่ทันสมัยไร้พรมแดน ซึ่งจะเป็นการนำสินค้าที่ได้พัฒนาแล้ว และการได้การยอมรับจากนานาชาติ อาทิเช่น หัวโขน ของจิ๋ว หุ่นกระบอก ภาพเขียน ผลงานศิลปะของศิลปินแห่งชาติ เป็นต้น
โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีเดินเยี่ยมชมนิทรรศการกิจกรรมชุมชน พร้อมชมการแสดงโขนยกรบ ตอนอย่าศึก ซึ่งแสดงโดยเด็กนักเรียนโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนคริทรวิโรฒ ปทุมวัน ฝ่ายประถม พร้อมกล่าวเปิดงานว่า กระทรวงวัฒนธรรมได้ร่วมกับเครือข่ายทางวัฒนธรรมจัดหาผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมและของดีจากทุกภูมิภาค เพื่อส่งเสริมรายได้ให้กับประชาชน ผู้ประกอบการ ธุรกิจรายย่อย และเปิดโอกาสให้คนในเมืองหลวงได้เลือกซื้อของดีจากจังหวัดต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายในการอนุรักษ์และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมและให้ความสำคัญในการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมทั้งความหลากหลายของศิลปะและวัฒนธรรมไทยทุกแขนง ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาต่อยอดในการสร้างสรรค์ผลงานต่าง ๆ ทั่วทุกภูมิภาคที่สืบต่อกันมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน และมุ่งส่งเสริมการปลูกฝังค่านิยมของคนไทยในการรักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาม เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจและความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของชาติไทย นอกจากนี้ ยังมีทุนทางวัฒนธรรม คือ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาตินับเป็นต้นทุนทางวัฒนธรรมที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่ประเทศที่มีมรดกทางวัฒนธรรมอย่างมหาศาล ดังนั้นการธำรงรักษามรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ให้คงอยู่อย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ โดยคำนึงถึงปัจจัยอันเป็นประโยชน์ที่ชุมชนและประชาชนจะได้รับอย่างเต็มที่ทั้งทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาเพื่อประโยชน์สุขที่ยั่งยืนของสังคมไทย
สำหรับพื้นที่การจัดงานและปรับเปลี่ยนแนวการจัดงานในแต่ละสัปดาห์ให้ประชาชนได้มาท่องเที่ยวและใช้ใช้จ่ายในบรรยากาศต่างๆ ได้แก่ ช่วงแรก 1-7 ก.พ. ตลาดมั่งมีศรีสุข ซึ่งอยู่ในช่วงตรุษจีน ช่วงที่สอง 8-14 ก.พ. ตลาดสร้างรัก ซึ่งอยู่ในช่วงวันแห่งความรัก ช่วงที่สาม 15-21 ก.พ. ตลาดสร้างสุข และช่วงสุดท้าย 22-26 ก.พ. ตลาดสร้างบุญ ซึ่งเป็นสัปดาห์วันมาฆบูชา อย่างไรก็ตามการจัดตลาดวัฒนธรรมครั้งนี้ เพื่อจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม มีรายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสเลือกซื้อสินค้า ผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมและเผยแพร่มรดกทางภูมิปัญญาไทยที่มีคุณภาพมาตรฐานไปสู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ รวมไปถึงเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภารกิจและบริการของหน่วยงานในกระทรวงวัฒนธรรมด้วย
************************************
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th