วันนี้ (9 กุมภาพันธ์ 2559) เวลา 14.15 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีกล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีกรณีรัฐบาลเตรียมเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2559 ประมาณห้าหมื่นกว่าล้านบาทเข้าที่ประชุมฯ ในวันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559 ว่า งบประมาณดังกล่าวเตรียมไว้เพื่อใช้จ่ายเพิ่มเติมโครงการที่สำคัญต่าง ๆ รวมถึงโครงการปฏิรูประเทศไม่เกี่ยวข้องกับงบประมาณในการทำประชามติ ซึ่งงบประมาณในการทำประชามติประมาณสามพันกว่าล้านบาท ได้เตรียมงบประมาณไว้ล่วงหน้าแล้ว
สำหรับการหารือถึงการทำประชามตินั้น รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (10 กุมภาพันธ์) เวลา 15.00 น. จะมีการประชุมหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องถึงเรื่องเงื่อนไข ขั้นตอนด้านธุรการของการทำประชามติ เช่น วิธีการนับคะแนน งบประมาณในการจัดพิมพ์ใบลงประชามติ วิธีการจัดพิมพ์ และวิธีจัดส่งเอกสาร โดยจะเชิญผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้ง สำนักงบประมาณ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้แทนคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันให้ประชาชนได้รับรู้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ การกำหนดวันทำประชามติ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องหลังจากที่ได้มีการแจกบัตรลงประชามติไปแล้วเกินกว่า 80% ของจำนวนครัวเรือนในประเทศไทย จึงจะกำหนดวันลงประชามติได้ ซึ่งวันที่ลงประชามติจะต้องกำหนดให้ตรงกับวันหยุดราชการอาจจะเป็นวันเสาร์ หรือวันอาทิตย์เท่านั้น เพื่อไม่ให้กระทบการกับเดินทางไปลงประชามติของประชาชน
สำหรับการส่งข้อคิดเห็นของกระทรวงต่าง ๆ เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญในส่วนของรัฐบาล รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า พรุ่งนี้ (10 กุมภาพันธ์) กำหนดให้เป็นวันสุดท้ายของการส่งข้อแสดงความคิดเห็น ซึ่งมีบางกระทรวงที่ยังไม่ได้ส่ง โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้รัฐมนตรีที่ยังไม่ได้ส่งข้อคิดเห็นให้ส่งข้อคิดเห็นให้เรียบร้อย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวบรวมข้อคิดเห็นในส่วนของรัฐบาลให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบก่อนการเดินทางไปเยือนต่างประเทศเพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ระหว่างวันที่ 14 – 18 กุมภาพันธ์ 2559 ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา
ส่วนกรณีสื่อออนไลน์และเว็บไซด์ต่าง ๆ รณรงค์คว่ำการทำประชามตินั้น รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีรับทราบเรื่องดังกล่าวแล้วและไม่รู้สึกกังวล เพราะถือว่าเป็นการแสดงความคิดเห็น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีแสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยนายกรัฐมนตรีขอให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญรับฟังความคิดเห็นทุกความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ และเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทำประชามติชี้แจงทำความเข้าใจต่อประชาชน เพื่อสร้างการรับรู้ที่ถูกต้อง ทั้งนี้ ไม่ว่าการทำประชามติเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่าน นายกรัฐมนตรียืนยันจะให้มีการเลือกตั้งในปี พ.ศ.2560 อย่างแน่นอน
---------------------------------------------------
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th