วันนี้ (3 มี.ค.59) เวลา 09.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) ครั้งที่ 1/2559 โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม
ภายหลังการประชุม นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การประชุม ก.น.จ. โดยหลักการคือทำอย่างไรให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้าอย่างมีอนาคตในทุกๆ 5 ปี ซึ่งต้องการให้วางแนวทางไว้เป็นนโยบายในการปฏิบัติทั้งในเรื่องของงบประมาณ การดำเนินการโครงการที่มีความสอดคล้องกัน โดยต้องการให้ทุกภูมิภาคของประเทศมีความเข้มแข็งในตัวเองตามศักยภาพของแต่ละพื้นที่ ทั้งปัจจัยในการผลิตและทรัพยากรธรรมชาติที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ ดังนั้น การมีมาตรการ การโซนนิ่งต่าง ๆ จะต้องทำทั้งระบบให้สอดคล้องกันตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางในแต่ละภูมิภาค ให้มีความเข้มแข็งในตัวเอง ไม่ต้องแย่งกันผลิตสินค้า จะได้เกิดความแตกต่างหลากหลาย และมีการพัฒนานวัตกรรมโดยเฉพาะสินค้าจีไอที่มีต้นกำเนิดมาจากแต่ละพื้นที่ ซึ่งในอนาคตอาจจะต้องปรับรูปแบบเรื่องรายได้ของประเทศเรื่องการเกษตรเป็นเกษตรอุตสาหกรรมแปรรูปขั้นที่ 1 ขั้นที่ 2 หรือรับจากประเทศเพื่อนบ้านมาแปรรูป เป็นต้น ซึ่งสิ่งที่เป็นกังวลคือเรื่องการบริหารจัดการน้ำที่เรามีต้นทุนไม่มากนักจากน้ำฝนที่ลดลงในแต่ละปี และนับวันจะน้อยลงไปเรื่อย ๆ ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยรัฐบาลได้วางยุทธศาสตร์ที่เริ่มทำได้ตั้งแต่วันนี้ ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น เป็นการบริหารราชการแบบดูแลจากข้างบนลงล่าง และวันนี้เป็นการรับฟังจากข้างล่างขึ้นมาข้างบนที่คณะกรรมการ ก.น.จ. ได้รับมา และได้หารือร่วมกับทุกภาคส่วนจึงได้เสนอแผนมาในวันนี้
ด้านนายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (เลขาธิการ ก.พ.ร.) ได้แถลงผลการประชุม ก.น.จ. ว่า ก.น.จ. ให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัด และแผนปฏิบัติราชการประจำปีของกลุ่มจังหวัด และคำของบประมาณของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ตามที่ฝ่ายเลขานุการร่วมเสนอ โดยโครงการและคำของบประมาณ 76 จังหวัด และกลุ่มจังหวัด 18 กลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ประกอบด้วย 1. โครงการและงบประมาณจังหวัด (76 จังหวัด) ได้รับการสนับสนุนภายในกรอบวงเงิน จำนวน 2,278 โครงการ งบประมาณ 20,040,766,376 บาท 2. โครงการและงบประมาณกลุ่มจังหวัด (18 กลุ่มจังหวัด) ได้รับการสนับสนุนภายในกรอบวงเงิน จำนวน 251 โครงการ งบประมาณ 8,587,532,720 บาท รวมเป็น 2,529 โครงการ งบประมาณรวม 28,628,299,096 บาท (สองหมื่นแปดพันหกร้อยยี่สิบแปดล้านสองแสนเก้าหมื่นเก้าพันเก้าสิบหกบาทถ้วน) โดย ก.น.จ. จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติราชการประจำปีฯ และคำของบประมาณของจังหวัด/กลุ่มจังหวัด 76 จังหวัด 18 กลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 และส่งแผนดังกล่าวให้สำนักงบประมาณเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณจากสำนักงบประมาณต่อไป
เลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้แนะนำเพิ่มเติมว่าการทำงบประมาณในครั้งนี้ได้พิจารณาตามกรอบเกณฑ์ ที่ ก.น.จ. ได้วางเอาไว้ เป็นการพิจารณาเชื่อมโยงบูรณาการของกลุ่มจังหวัดต่าง ๆ แล้ว แต่ก็ต้องหาแนวทางทำให้เห็นชัดเจนขึ้นว่างบประมาณนั้นได้ลงไปตามโครงการพื้นฐานหลัก สอดคล้องกับโจทย์ยุทธศาสตร์ภารกิจหลักที่ได้รับมอบหมาย ทั้งงบประมาณที่ลงพื้นที่ และการเตรียมการจัดสรรงบกลางเพื่อเตรียมการในเรื่องต่าง ๆ จะต้องชัดเจนเพื่อไม่ให้การบริหารจัดการต่าง ๆ มีปัญหาเหมือนอย่างในอดีตที่ผ่านมา รวมทั้งขอให้ทบทวนวิธีการในการจัดทำ พ.ร.บ.งบประมาณฯ ด้วย
ขณะที่ นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (เลขาธิการ ส.ศ.ช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ก.น.จ. ให้ความเห็นชอบแผนพัฒนาจังหวัด 76 จังหวัด และแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด 18 กลุ่มจังหวัด (พ.ศ. 2557-2560) ฉบับทบทวนใหม่ (รอบปี พ.ศ. 2560) ตามที่คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.จ.) และคณะอนุกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.ก.) ได้ดำเนินการทบทวนแล้ว โดยเห็นว่าในภาพรวมแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ วิสัยทัศน์ของประเทศ นโยบายของรัฐบาล ทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตามแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 รวมถึงแผนรายสาขา/เฉพาะด้านต่าง ๆ เช่น แผนพัฒนาการเกษตร นโยบายโซนนิ่งภาคเกษตร แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ แผนแม่บทการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย แผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม แผนแม่บทการบริหารจัดการน้ำ เขตเศรษฐกิจพิเศษ โครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง สิ่งแวดล้อม ผังเมือง เป็นต้น รวมทั้งความสอดคล้องกับศักยภาพ โอกาส สภาพปัญหา และความต้องการของประชาชนในพื้นที่
พร้อมกับเห็นชอบผลการพิจารณาคุณภาพแผนพัฒนาจังหวัด 76 จังหวัดและกลุ่มจังหวัด 18 กลุ่มจังหวัด (พ.ศ. 2557-2560) ฉบับทบทวนใหม่ (รอบปี พ.ศ. 2560) ทั้งในส่วนของภาพรวมคุณภาพแผน และคุณภาพแผนรายภาค เพื่อนำคะแนนคุณภาพแผนฯ ไปใช้สำหรับการกำหนดกรอบการจัดสรรงบประมาณให้แก่จังหวัดและกลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560
เลขาธิการ ส.ศ.ช. กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีเน้นให้เพิ่มเติมในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวกับแผนพัฒนาจังหวัดและแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด รวม 3 ประเด็นคือ 1. ให้มีการเชื่อมโยงออกไปนอกประเทศ เนื่องจากที่ผ่านมาโครงการจังหวัดก็จะคิดในส่วนของจังหวัดและพื้นที่เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เน้นว่าศักยภาพของสินค้าในพื้นที่จะต้องสามารถเชื่อมโยงไปยังชายแดน ประเทศเพื่อนบ้านและในอาเซียน 2. ระดับจังหวัดจะต้องดึงการแปรรูปในระดับพื้นที่ให้ไปผลิตในจังหวัดอื่นหรือสถานที่อื่น โดยให้มีการเชื่อมต่อบูรณาการอย่างเป็นระบบ โดยประชารัฐจะเป็นผู้ขับเคลื่อนและภาคเอกชนเข้ามาช่วยพัฒนา ให้เกิดการเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ของจังหวัดผ่านภาคเอกชน และให้เกิดช่องทางการตลาด 3. ในช่วงของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 แผนพัฒนาจังหวัดและแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด จะต้องทำในส่วนของแผนภาครายภาค แผนกลุ่มจังหวัด ซึ่งเป็นแผนพื้นที่ในช่วงปี 2560-2564 ให้ออกมาสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติของแผนพัฒนาฯ และจะต้องทำให้ดียิ่งขึ้นกว่าฉบับปัจจุบัน
-------------------
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th