รมต.นร. สุวพันธุ์ฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ 3/2559

ข่าวทั่วไป Thursday March 24, 2016 14:08 —สำนักโฆษก

ที่ประชุมมีมติเห็นชอบรายงานผลการดำเนินงานขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (12 ก.ย. 57 – 29 ก.พ. 59)

วันนี้ (24 มี.ค. 59) เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่3/2559 ซึ่งสรุปสาระสำคัญของการประชุม ดังนี้

ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบรายงานผลการดำเนินงานขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (12 กันยายน 2557 – 29 กุมภาพันธ์ 2559) ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นควรให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาปรับปรุงแก้ไขในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่งแล้วส่งให้ฝ่ายเลขานุการอีกครั้งภายในวันที่ 28 มีนาคม 2559 จากนั้นจะได้นำเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณานำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบการติดตามนโยบายสำคัญ 2 เรื่อง ได้แก่ การขับเคลื่อนเพื่อพิจารณาข้อเสนอแนะตาม มาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรการบัญชีเล่มเดียวพร้อมกับยกเว้นและลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับผู้ประกอบการ SMEs โดยกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ มีผู้ประกอบการ SME กว่า 4 แสน 7 หมื่นรายซึ่งผ่านการจดแจ้งกับกรมสรรพากรแล้วเพื่อตรงตามสภาพจริงของธุรกิจและเกิดประโยชน์กับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้รับทราบผลงานโดดเด่นของกระทรวงต่าง ๆ อาทิ กระทรวงกลาโหม เรื่องการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน โดยได้ดำเนินการขยายอายุใบอนุญาตนักบินพาณิชย์เอกและใบรับรองของสายการบินต่าง ๆ ที่กำลังหมดอายุ ให้สามารถดำเนินการต่อไปได้ อีกทั้งขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการตามกระบวนการแก้ไขระเบียบเกี่ยวกับใบอนุญาตต่าง ๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและการฝึกคอบร้าโกลด์ 2016 ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 9-16 กุมภาพันธ์ ศกนี้ โดยมีนายทหารเข้าร่วมฝึกจาก 27 ประเทศ จำนวน 8,775 นาย เพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงในการแก้ไขสถานการณ์ความขัดแย้งและเตรียมพร้อมในการช่วยเหลือและบรรเทาภัยพิบัติต่าง ๆ และนำไปสู่การบูรณาการกองกำลังสันติภาพนานาชาติตลอดจนการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) ซึ่งดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 19 ชิ้นงานและอยู่ระหว่างดำเนินการให้แล้วเสร็จอีก 4 ชิ้นงาน

สำหรับกระทรวงการคลัง มีผลงานโดดเด่นได้แก่ ได้ดำเนินการมาตรการสนับสนุนวิสาหกิจเริ่มต้น (Start up) พร้อมจัดตั้งกองทุนเพื่อร่วมลงทุนกับวิสาหกิจเริ่มต้น วงเงินเริ่มต้นประมาณ 1,000 ล้านบาท ตลอดจนมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาภัยแล้งและมาตรการเพิ่มขีดความสามารถภาคการเกษตรจำนวน 3 โครงการ ประกอบด้วยโครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินและจำเป็นแก่เกษตรกรที่ประสบภัยแล้งปี 2558/2559 วงเงิน 6,000 ล้านบาท และโครงการสินเชื่อ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างความยั่งยืนของภาคการเกษตรไทยวงเงิน 72,000 ล้านบาท ตลอดจนโครงการชุมชนปรับเปลี่ยนการผลิตสู้วิกฤตภัยแล้ง วงเงินสินเชื่อ 15,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ กระทรวงอื่น ๆ มีผลงานโดดเด่น เช่น กระทรวงการต่างประเทศ เรื่องการเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา สมัยพิเศษของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้แก่ โครงการจัดการประกวดผลงานนวัตกรรมการพัฒนาโมบาย Application ภาครัฐ กระทรวงพาณิชย์ ได้แก่ การจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ยาง ระหว่างผู้นำเข้าจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก กับผู้ประกอบการยางพาราและผลิตภัณฑ์จากยางของไทย กระทรวงยุติธรรม ได้แก่ โครงการศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลกระบวนการยุติธรรม กระทรวงแรงงาน ได้แก่ ขยายระยะเวลาการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวในกิจการประมงทะเลและกิจการแปรรูปสัตว์น้ำออกไปอีก 6 เดือน รวมทั้งกระทรวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้แก่ การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา เทคโนโลยีและนวัตกรรม 300% ประกอบด้วยการปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนธุรกิจเงินร่วมลงทุน ให้มีความสอดคล้องกับสถานภาพธุรกิจเงินร่วมทุนและการปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมของภาคเอกชน

*************************

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์

สุภิญญา / รายงาน

ดวงใจ / ตรวจ

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ