กสอ. ชี้ญี่ปุ่นเตรียมลงทุน S-curve เพิ่มในไทย พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ผู้ประกอบการ

ข่าวทั่วไป Tuesday January 19, 2016 14:12 —สำนักโฆษก

กรุงเทพฯ 18 มกราคม 2559 – กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ชี้ญี่ปุ่นเตรียมลงทุน S-Curve เพิ่มในไทย พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ผู้ประกอบการ เดินหน้าลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กับจังหวัดเอฮิเมะ ประเทศญี่ปุ่น คาดว่านำไปสู่การยกระดับอุตสาหกรรมของทั้ง 2 ประเทศด้านอุตสาหกรรมการต่อเรือ สิ่งทอ กระดาษ เคมีภัณฑ์ ปิโตรเลียมและถ่านหิน อุตสาหกรรมเหล็กและเครื่องจักรอุตสาหกรรม เป็นต้น เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมอนาคตของไทย (New S-curve)

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย และการสร้างอำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ในอนาคต โดยการต่อยอดอุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพอยู่แล้ว ได้แก่ ยานยนต์สมัยใหม่ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ และแปรรูปอาหาร และควบคู่ไปกับการพัฒนาอุตสาหกรรมอนาคต (New S-curve) ได้แก่ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ การบินและโลจิสติกส์ เชื้อเพลิงชีวภาพและ เคมีชีวภาพ ดิจิทัล และการแพทย์ครบวงจร เพื่อให้ก้าวทันต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก ซึ่งประเทศญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมในประเทศไทยมาอย่างยาวนานและมีการลงทุนสูงถึงร้อยละ 40 ของการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด โดยปี 2557 พบว่าการลงทุนของผู้ประกอบการญี่ปุ่นในไทยมีมูลค่ารวมกว่า 1.5 แสนล้านบาท สำหรับการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในวันนี้จึงนับเป็นความร่วมมือของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีกับผู้ประกอบการของไทยที่จะได้เรียนรู้ด้านเทคโนโลยีของญี่ปุ่น และก่อให้เกิดการรวมกลุ่ม ของการลงทุน (Cluster) ที่สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจไทย โดยเพิ่มบทบาทของประเทศไทยในเวทีโลก และจะเร่งเปิดเจรจาความร่วมมือทางธุรกิจกันโดยเร็ว โดยเฉพาะกิจกรรมการจับคู่ทางธุรกิจ

ดร.สมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดเอฮิเมะมีความโดดเด่น ด้านอุตสาหกรรมการต่อเรือ สิ่งทอ กระดาษ เคมีภัณฑ์ ปิโตรเลียมและถ่านหิน อุตสาหกรรมเหล็กและเครื่องจักรอุตสาหกรรม ซึ่งการลงนามความร่วมมือเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับจังหวัดเอฮิเมะในครั้งนี้ จะเป็นการส่งเสริมและสนับสนุน อุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมของไทยให้ได้รับองค์ความรู้ในการบริหารธุรกิจ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย จากประเทศญี่ปุ่น และนับเป็นโอกาสอันดีที่ขณะนี้มีกลุ่มอุตสาหกรรมจากจังหวัดเอฮิเมะ ตัดสินใจเลือกลงทุนในประเทศไทยแล้วจำนวน 15 บริษัท ได้แก่ เครื่องจักรกลการเกษตร อาหารแปรรูป พลาสติก และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น ซึ่งมียอดลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท รวมถึงยังมีผู้ประกอบการอีก 9 บริษัท สนใจร่วมกิจกรรมการจับคู่เจรจาธุรกิจ (Business Matching) อีกด้วย อย่างไรก็ตาม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจะยังคงเน้นในการ ขยายความร่วมมือไปยังจังหวัด และเมืองอุตสาหกรรมที่สำคัญของญี่ปุ่นต่อไป โดยเฉพาะจังหวัดที่ให้ความสนใจ และมีจุดเด่นในอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับศูนย์ธุรกิจอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) สามารถสอบถามได้ที่ โทร.0 2202 4426-7 หรือเข้าไปที่ www.dip.go.th หรือwww.facebook.com/dip.pr

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ