ผู้แทนพิเศษประธานาธิบดีสาธารณรัฐชิลีสำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเข้าพบหารือนายกรัฐมนตรี

ข่าวทั่วไป Thursday April 7, 2016 14:25 —สำนักโฆษก

วันนี้ (7 เม.ย. 59) เวลา 10.30 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเอดูอาร์โด เฟรย์ รูอิซ-ตักเล (H.E. Mr. Eduardo Frei Ruiz-Tagle) อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐชิลี และผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีสาธารณรัฐชิลีสำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยระหว่างวันที่ 6 – 10 เมษายน 2559

พลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญของการสนทนา ดังนี้

ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ได้พบ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับอดีตประธานาธิบดีชิลีสู่ประเทศไทย ในโอกาสเดินทางมาเข้าร่วมการสัมมนาหัวข้อ “การใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีไทย-ชิลี ภายหลังจากที่มีผลบังคับใช้” ทั้งนี้นายเฟรย์กล่าวว่า การเดินทางมาในครั้งนี้มาในฐานะผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีสาธารณรัฐชิลีสำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยหวังว่าหลังจากการลงนามความตกลงการค้า ความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศจะพัฒนาได้อย่างเต็มที่ และร่วมกันส่งเสริมให้มีการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีไทย – ชิลี

ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องว่า ศักยภาพของไทยและชิลียังมีอีกมากที่สามารถร่วมมือกันได้ และอยากให้ดำเนินการเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยใช้ช่องทาง FTA เพื่อเป็นพื้นฐานความร่วมมือในอนาคตต่อไป

นายกรัฐมนตรียินดีที่ไทยและชิลีมีความสัมพันธ์อันดี โดยไทยพร้อมร่วมมือเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ในทุกมิติอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็วต่อไป ทั้งนี้ไทยและชิลีให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับการรวมกลุ่มภูมิภาคโดยเฉพาะเอเชีย-แปซิฟิก และอาเซียน โดยในด้านการส่งออก ประเทศชิลีส่งออกสินค้ามายังเอเชีย-แปซิฟิกกว่าร้อยละ 50 และนำเข้าสินค้าจากภูมิภาคนี้กว่าร้อยละ 30 โดยนายกรัฐมนตรีเห็นว่า ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมเป็นความร่วมมือที่จะเกิดเป็นรูปธรรมได้เร็ว ทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยว และการเพิ่มเที่ยวบินตรงระหว่างกัน เพื่อสร้างความเชื่อมโยง และการไปมาหาสู่ระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ

นอกจากนี้ ในปีนี้ที่ไทยเป็นประธานกลุ่ม G77 ร่วมกับสมาชิกกว่า 134 ประเทศ เล็งเห็นถึงศักยภาพของแต่ละประเทศสมาชิก ทั้งต้นทางในการเป็นแหล่งวัตถุดิบ และแหล่งผลิต กลางทางในการแปรรูป และปลายทางในการเป็นตลาดร่วม ซึ่งหากทุกประเทศร่วมมือมือกันจะเกิดประโยชน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยนายกรัฐมนตรีกหล่าวว่า ไทยมีนโยบายร่วมกับ 7 กลุ่มประเทศยุทธศาสตร์ (อเมริกา อียู ตะวันออกกลาง ประเทศหมู่เกาะ แอฟริกา อาเซียน และ CLMV) พร้อมสร้างความเชื่อมโยง โดยหวังว่ามิตรประเทศและชิลีจะเข้ามามีส่วนร่วม

ในโอกาสนี้ ผู้แทนพิเศษชิลีกล่าวว่า ชิลีสนับสนุนไทยในบทบาทการเป็นประเทศผู้สังเกตการณ์ของกลุ่มพันธมิตรแปซิฟิก (Pacific Alliance) รวมถึงการเป็นประเทศผู้ประสานงานของอาเซียน สำหรับการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับกลุ่มพันธมิตรแปซิฟิกปี 2559 โดยระบุว่า กลุ่มพันธมิตรแปซิฟิกตระหนักถึงความสำคัญของอาเซียน โดยทั้งสองกลุ่มมีความคล้ายคลึงกันในหลายด้าน เช่น การเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะใช้ประเทศไทยและชิลีเป็นฐาน/ประตูในการเข้ามาทำการค้าและการลงทุนสู่ภูมิภาคของกันและกัน

นอกจากนี้ ไทยติดตามพัฒนาของความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership: TPP) อย่างใกล้ชิด และเล็งเห็นถึงโอกาสและผลประโยชน์ของ TPP ที่ประเทศสมาชิกจะได้รับผ่านความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ที่จะกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อย่างไรก็ตาม ไทยขอเวลาในการศึกษาและทำความเข้าใจประเด็นความตกลง TPP ซึ่งขยายมาจากเขตการค้าเสรี P4 ที่ชิลีเป็นสมาชิกก่อตั้งร่วมกับบรูไน สิงคโปร์ และนิวซีแลนด์

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวอวยพรให้ผู้แทนพิเศษชิลีปฏิบัติภารกิจได้ลุล่วงตามความประสงค์ของรัฐบาลชิลี และหวังว่าจะมีโอกาสได้กลับมาเยือนเมืองไทยอีกในอนาคต พร้อมส่งความปรารถนาดีไปยังนางมิเชล บาเชเลท ประธานาธิบดีชิลี

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ