วันนี้ (1 กรกฎาคม 2559) เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 คณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปด้านความมั่นคง ลดความเหลื่อมล้ำ การเกษตรทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการฯ พลตรี คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ได้แถลงผลการประชุม ซึ่งสรุปสาระสำคัญดังนี้
ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานด้านความมั่นคง 3 เรื่อง ได้แก่ 1) การจัดข้อมูลด้านความมั่นคง 2) การจัดทำยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศ กระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2560 - 2575 และแผนภายใต้ยุทธศาสตร์ฯ 3) การจัดทำยุทธศาสตร์การปฎิรูปกิจการตำรวจระยะ 20 ปี ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้ง ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน ที่มีการจ้าง CAAi เพื่อจัดทำแผนและดำเนินงานออกใบรับรองการเดินอากาศใหม่ (Re-certification) ซึ่งเริ่มดำเนินการจากสายการบินเที่ยวบินระหว่างประเทศ โดยมีระบบการกำกับดูแลและระบบสนับสนุนการปฎิบัติงาน จากบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รวมทั้งมีการเตรียมพร้อมเรื่องการปรับปรุงพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 ก่อนเสนอยังสำนักงานคณะกรรมการกฎีกาตามขั้นตอนการเสนอร่างกฎหมาย ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมรับทราบแนวทางการจัดการศึกษาให้แก่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ได้รับกระทบจากพระราชบัญญัติธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ. 2558 เพื่อยกระดับการศึกษาให้กับพนักงาน รปภ. ในรูปแบบของคณะกรรมการประชารัฐ โดยบังคับการศึกษาที่ระดับมัธยมศึกษาชั้นที่ 3 ซึ่ง พระราชบัญญัติ ฉบับนี้ มีผลเฉพาะการเพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับธุรกิจที่ดำเนินการ ก่อนปี พ.ศ. 2559
นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาการรุกลำน้ำสาธารณะ (คลองลาดพร้าว) ที่มีการดำเนินการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง เพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชน และจะมีการจัดตั้งสหกรณ์เคหะสถานในโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง เพิ่มอีกกว่า 20 สหกรณ์ ในปี 2559 ขณะนี้บางพื้นที่ชุมชนได้รับทราบและมีการเตรียมตัวเพื่อที่อยู่อาศัยใหม่ที่รัฐบาลจัดหาให้แล้ว รวมทั้งที่ประชุมรับทราบโครงการปรับภูมิทัศน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ได้มีการดำเนินงานด้านการออกแบบและภูมิสภาปัตย์ และจะมีการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการ รวมถึงความคืบหน้าของระบบตั๋วร่วม ภายใต้ชื่อ “แมงมุม” ที่มีการดำเนินการด้านงานบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ซึ่งอยู่ระหว่างการทดสอบการให้บริการ และจะมีการเปิดให้บริษัทเอกชนรวมลงทุน โดยรัฐบาลถือหุ้นไม่เกิณ 50 % และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2560
--------------------------------
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th