ไทย-ลาว เร่งสานต่อความร่วมมือทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี

ข่าวทั่วไป Wednesday August 10, 2016 13:32 —สำนักโฆษก

วันนี้ (10 สิงหาคม 2559) เวลา 09.30 น. นายสะเหลิมไซ กมมะสิด (H.E. Mr. Saleumxay Kommasith)รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและคณะ เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการ (Official Visit) เพื่อแนะนำตัว หลังจากที่ได้ร่วมกำหนดการเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีแห่ง สปป. ลาว เมื่อวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2559 ภายหลังการหารือ พลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่ได้พบอีกครั้ง พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า นายสะเหลิมไซฯ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มพลวัตให้แก่ความสัมพันธ์ไทย – ลาว โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลาว ได้ฝากคำอวยพรและทักทายจาก นายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีแห่ง สปป.ลาว มายังนายกรัฐมนตรี พร้อมกล่าวแสดงความยินดีต่อผลการลงประชามติ และชื่นชมต่อนโยบายของรัฐบาลไทย โดยรัฐบาลลาวสนับสนุนการปฏิรูปตามโรดแม็ป และเห็นว่าความสงบและความเจริญก้าวหน้าของไทย เป็นเงื่อนไขสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาของ สปป.ลาว โดยสองฝ่ายต่างเห็นพ้องว่า ความสัมพันธ์ทวิภาคีในปัจจุบันอยู่ในจุดที่ดีที่สุด และพร้อมจะร่วมกันขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างกันให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป

สำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ระหว่างวันที่ 6 – 8 กันยายน 2559 ที่รัฐบาลลาวในฐานะประธานอาเซียนจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในปีนี้นั้น นายกรัฐมนตรีได้แสดงความพร้อมที่จะเข้าร่วมและสนับสนุนฝ่ายลาวอย่างเต็มที่เพื่อให้การประชุมดังกล่าวเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะในประเด็นที่ลาวให้ความสำคัญ 8 ประเด็น ที่จะช่วยผลักดันแนวคิด "Turning Vision into Reality for a Dynamic ASEAN" โดยที่ฝ่ายลาวเองได้ยืนยันการเข้าร่วมและสนับสนุนการจัดประชุม ACD ครั้งที่ 2 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือนตุลาคมนี้ เช่นกัน ระหว่างการสนทนา มีติดตามผลการเยือนไทยของของนายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีแห่ง สปป.ลาว ในด้านต่างๆ ดังนี้

ด้านความเชื่อมโยงในภูมิภาคและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ไทยสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อเชื่อมโยงไทย – ลาวและเชื่อมต่อไปยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค โดยนายกรัฐมนตรีเสนอให้พิจารณาการสร้างความเชื่อมโยง โดยใช้หลักการว่า อะไรที่ทำได้เร็ว ให้ทำก่อน ไม่ว่าจะเป็นเส้นทาง R12 และสะพานเชื่อมโยงระหว่างกัน เพื่ออำนวยความสะดวกการไปมาหาสู่ระหว่างกัน โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดน และช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและการดำรงชีพอย่างยั่งยืนของประชาชนในพื้นที่

ด้านการค้าการลงทุน นายกรัฐมนตรีได้ขอให้รัฐบาลลาวช่วยดูแลนักลงทุนไทยที่เข้าไปลงทุนยัง สปป.ลาว โดยเฉพาะการให้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎระเบียบและอำนวยความสะดวก ซึ่งทางฝ่ายลาวเองพร้อมสนับสนุนไทยเพื่อให้เป็นนักลงทุนอันดับ 1 ในลาว เช่นกัน โดยที่ไทยพร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนต่างชาติ การจัดตั้งศูนย์ One stop service และระบบ E-government ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนต่างชาติมากขึ้น

ด้านความร่วมมือด้านพลังงาน สองฝ่ายยินดีที่มีการเพิ่มพูนความเชื่อมโยงด้านพลังงานไฟฟ้าไทย – ลาว โดยไทยจะขยายการรับซื้อพลังงานไฟฟ้าภายใต้กรอบ MOU ว่าด้วยความร่วมมือด้านการพัฒนาไฟฟ้าในลาว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย “แบตเตอรี่แห่งเอเชีย” ที่สำคัญของลาว จึงขอให้หน่วยงานของทั้งสองฝ่ายเจรจาและหารือให้มีความคืบหน้าและเสร็จสิ้นโดยเร็ว

สำหรับความร่วมมือด้านแรงงาน นายกรัฐมนตรีย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการแรงงานลาวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยอย่างเป็นระบบ โดยขอให้ฝ่ายลาวพิจารณา การจดทะเบียนพิสูจน์สัญชาติมาจากทางฝั่งลาว เพื่อช่วยลดขั้นตอนการดำเนินการในไทย และเพื่อให้แรงงานลาวที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ซึ่งทางฝ่ายลาว เห็นว่ามีประโยชน์ต่อแรงงานลาวและจะนำไปเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

ภายหลังการหารือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว ได้แสดงความประทับใจต่อไมตรีจิตของไทยและแสดงความพร้อมที่จะช่วยขับเคลื่อนความสัมพันธ์สองประเทศให้รุดหน้าต่อไป

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ