รัฐบาลปลื้ม องค์กรต่างชาติตบเท้ายกระดับความพร้อมด้านไอซีทีไทย ขึ้นแท่น 1 ใน 4 อาเซียน

ข่าวทั่วไป Saturday September 3, 2016 08:35 —สำนักโฆษก

รัฐบาลปลื้ม องค์กรต่างชาติตบเท้ายกระดับความพร้อมด้านไอซีทีไทย ขึ้นแท่น 1 ใน 4 อาเซียน ชี้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเปลี่ยนผ่านประเทศ จัดตั้งศูนย์ดิจิทัลชุมชน สร้างแม่ค้าท้องถิ่นให้เป็นนักการตลาดออนไลน์

วันนี้ (3ก.ย.59) พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผลจากการที่รัฐบาลผลักดันการพัฒนาดิจิทัลเพื่อยกระดับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในหลายรูปแบบ เช่น พัฒนาโครงการพื้นฐานดิจิทัลให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ปรับเปลี่ยนภาครัฐสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล จัดตั้งสถาบันพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลภาครัฐ ฯลฯ นั้น

“หน่วยงานระดับโลกทั้งองค์การสหประชาติ เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่ม และมหาวิทยาลัยวาเซดะแห่งญี่ปุ่น ได้จัดอันดับความพร้อมด้านไอซีทีของไทยดีขึ้น โดยเฉพาะสหประชาชาติได้ประเมินว่า ไทยได้พัฒนางานด้านรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์อย่างจริงจัง ทำให้ในปี 2559 สามารถก้าวขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 77 จากทั้งหมด 193 ประเทศ เลื่อนขึ้นจากปี 2557 ถึง 25 อันดับ และเป็นลำดับที่ 4 ของอาเซียน”

พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญอย่างมากกับการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเฉพาะเทคโนโลยีดิจิทัล ในการเปลี่ยนผ่านประเทศทั้งเศรษฐกิจและสังคมไปสู่ยุค 4.0 เพื่อให้ไทยหลุดพ้นจากประเทศรายได้ปานกลางเป็นประเทศที่มีรายได้สูง และคนไทยมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

“รัฐบาลมีแผนการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ครอบคลุมทั้งระดับประเทศและระดับชุมชน โดยในระดับชุมชนนั้น ขณะนี้ได้เร่งจัดตั้งศูนย์ดิจิทัลชุมชน ให้เป็นแหล่งเรียนรู้แก่ประชาชน ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อพัฒนาอาชีพ สร้างรายได้ เช่น เปิดสอนการทำแฟนเพจประชาสัมพันธ์สินค้าท้องถิ่น อบรมการใช้สมาร์ทโฟนเพื่อการค้าขายออนไลน์ ฯลฯ”

ที่ผ่านมา มีการจัดตั้งศูนย์ดิจิทัลชุมชนต้นแบบขึ้นมาแล้ว 2 แห่ง คือ ศูนย์ดิจิทัลชุมชนสถาบันพัฒนาเยาวสตรี อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และศูนย์ดิจิทัลชุมชนตำบลบ้านโต้น อ.พระยืน จ.ขอนแก่น ด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงไอซีที กศน. และบริษัทดีแทค ตามแนวทางประชารัฐ

โดยมีผู้จบหลักสูตรแล้วหลายรุ่น สามารถสร้างร้านค้าออนไลน์ขายสินค้าท้องถิ่นหลายประเภท ทั้งอาหาร งานฝีมือ ผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น ร้านส้มตำ ร้านผักผลไม้ ฯลฯ ช่วยเพิ่มรายได้มากขึ้นหลายเท่าตัว และขยายตลาดได้กว้างขวางขึ้น ไม่จำกัดอยู่แต่เฉพาะในท้องถิ่นเท่านั้น

ทั้งนี้ รัฐบาลมีแผนที่จะเปิดศูนย์ดิจิทัลชุมชนต้นแบบในภาคกลาง ภาคใต้ และพื้นที่อื่น ๆ ที่มีศักยภาพ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างต่อเนื่องต่อไป

__________

สำนักโษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ