รัฐบาลมอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มบริการขนส่งสาธารณะ อำนวยความสะดวกประชาชนร่วมลงนามถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ

ข่าวทั่วไป Monday October 17, 2016 08:15 —สำนักโฆษก

วันนี้ (15 ต.ค.59) เวลา 10.40 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการและเลขานุการ ศตส. ได้เปิดเผยว่า ศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) มีหน้าที่หลักในการติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ ของบ้านเมืองทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องในช่วงที่มีพระราชพิธีพระบรมศพ เช่น การอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเดินทางมาเข้าร่วมพระราชพิธี การดูแลความสงบเรียบร้อยของประเทศโดยรวมทั้งในส่วนกลางและต่างจังหวัด ซึ่งการทำงานของ ศตส. ขณะนี้ได้มีผู้แทนจากทุกกระทรวง ทบวงกรม ได้เข้ามามีส่วนร่วมทุกภาคส่วนทั้งฝ่ายความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม กระบวนการยุติธรรม และการดูแลอำนวยความสะดวกในการเข้าร่วมพระราชพิธีต่าง ๆ โดยผลการประชุมสรุป ดังนี้

1) สถานการณ์โดยรวมของประเทศ ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2559 จนถึงปัจจุบันเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ยังไม่พบสิ่งบอกเหตุที่มีความผิดปกติต่าง ๆ อย่างไรก็ตามฝ่ายความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงมีการติดตามเฝ้าระวังอย่างเต็มที่

2) กรณีมีความเข้าใจผิดในเรื่องของการใช้พื้นที่ในกรุงเทพมหานคร เช่น พื้นที่สนามหลวง ผู้แทนกรุงเทพมหานคร ได้มีการชี้แจงเรียบร้อยแล้วว่าสามารถที่จะใช้พื้นที่ดังกล่าวได้ รวมถึงจะมีการดูแลอำนวยความสะดวกในเรื่องต่าง ๆ และเรื่องการจราจรสำหรับประชาชนที่จะเข้าร่วมในพระราชพิธีด้วย ขณะเดียวกันกรุงเทพมหานคร จะได้มีการจัดเตรียมสถานที่ที่ทำการของทุกเขตในกรุงเทพฯ สำหรับให้ประชาชนได้ลงนามถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ

3) การปฏิบัติงานของ ศตส. จะปฏิบัติหน้าที่ 24 ชั่วโมง โดยจะมีการประชุมติดตามและประเมินสถานการณ์ต่าง ๆ วันละ 2 ครั้ง คือ เวลา 09.00 น. และ เวลา 16.00 น. ของทุกวัน

4) จะมีการจัดบริการขนส่งสาธารณะต่าง ๆ เพิ่ม ทั้งการบริการทางรถโดยสาร และเรือ รวมทั้งจะมีการจัดจุดบริการทางการแพทย์

5 ) ขณะนี้มีภาคเอกชนได้ประสานพร้อมสนับสนุนน้ำดื่มให้กับประชาชน โดยได้มอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนายกรัฐมนตรี เป็นหน่วยงานกลางในการดำเนินการติดต่อประสานงานเรื่องดังกล่าวต่อไป

ด้าน พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการอำนวยความสะดวกเรื่องการจรจรและจุดรับ-ส่งการบริการขนส่งสาธารณะว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการบริการสาธารณะต่าง ๆ เช่น รถโดยสารฟรี (รถเมล์) ที่จะผ่านเส้นทางบริเวณสนามหลวง ระหว่างวันที่ 14 -16 ตุลาคม 2559 จะมีการจัดบริการรถโดยสารฟรีเพิ่ม 30 กว่าสาย รวมถึงการจัดบริการรถสาธารณะเสริมในจุดเชื่อมต่อสำคัญ เช่น สถานีหัวลำโพงไปยังสถานีรถไฟฟ้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และให้มีการเพิ่มการบริการเรือรับส่งในคลองผดุงกรุงเกษมจากสถานีหัวลำโพงไปยังท่าเรือเทเวศน์เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันให้มีการจัดบริการรถรางตามถนนซึ่งกรุงเทพมหานครได้เคยจัดให้เพิ่มเที่ยวให้ถี่มากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนเรื่องการบริการขนส่งสาธารณะเป็นไปด้วยความสะดวกรวดเร็ว

ส่วนกรณีที่มีวินมอเตอร์ไซค์คิดค่าบริการรับส่งประชาชนในระยะทางใกล้ ๆ ด้วยราคาที่สูงนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องดังกล่าวไปดำเนินการแล้ว เพราะถือเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนจะแสดงความจงรักภักดี จึงอยากจะอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องการให้มีการกระทำใดๆ ที่จะส่งผลทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและลำบาก

นอกจากนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเรื่องราคาจำหน่ายเสื้อผ้าชุดดำว่า เมื่อเช้าวันนี้เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้ชี้แจงว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการตรวจติดตามการจำหน่ายเสื้อผ้าพบว่าเสื้อผ้าชุดสีดำและสีขาวได้รับความนิยมขายดีเป็นอย่างมาก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ลงไปดูแลอย่างใกล้ชิดไม่ให้มีการจำหน่ายเสื้อผ้าหรือสินค้าในราคาที่สูงเกินกว่าที่ควรจะเป็น

พร้อมกันนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ขอความร่วมมือประชาชนทุกคนอยู่ในความสงบเรียบร้อยและถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ โดยการทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์และรับฟังข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานราชการผ่านทางสถานีโทรทัศน์ และวิทยุของทางราชการ หรือทางสถานีโทรทัศน์ช่องหลัก

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการว่านอกจากการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องขับเคลื่อนประเทศต่อไปควบคู่กับการดำเนินการจัดงานพิธีที่จะต้องจัดเกี่ยวกับพระบรมศพแล้ว จะต้องทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ได้เชิญสถานีโทรทัศน์ช่องหลักประชุมร่วมกันในเวลา 11.00 น. เพื่อขอความร่วมมือปรับผังรายการอีกครั้งให้เป็นไปอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์และเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ปรารภว่าไม่อยากให้ประชาชนขาดตกบกพร่องในเรื่องข่าวสาร โดยเฉพาะรายการที่เป็นเหตุบ้านการเมือง ข่าวสารเกี่ยวกับต่างประเทศ เรื่องรายการที่จะส่งเสริมการพัฒนาประเทศ รายการ National Geographic สารคดีที่น่าสนใจ จึงอยากให้สถานีโทรทัศน์แต่ละช่องได้นำเสนอข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ให้ครบถ้วนและอยู่ในกรอบของความเหมาะสมเสนอประชาชนรับทราบด้วย

สำหรับสถานบันเทิงยังสามารถเปิดประกอบกิจการได้ รัฐบาลไม่ได้ห้ามแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องดำเนินการในสถานที่ปิดหรืออยู่ในอาคาร โดยขอความร่วมมืออย่าจัดกิจกรรมเอิกเกริกนอกสถานที่หรือพื้นที่สาธารณะ รวมถึงการจัดงานแต่งงานและงานบวชก็สามารถจัดกิจกรรมได้ โดยพิจารณาจัดกิจรรมในรูปแบบให้เป็นไปอย่างเหมาะสมกับกาลและโอกาส

ส่วนการจัดการแสดงคอนเสิร์ตนั้น ในช่วงเวลานี้เบื้องต้น 30 วัน ต้องขออนุญาตให้งดก่อน และหลังจากนี้จะมีการพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งผู้ที่ติดต่อการจัดแสดงคอนเสิร์ตก็พร้อมให้ความร่วมมือ

-------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ