วันนี้ (23 ธันวาคม 2559) เวลา 13.40 น. ณ บริเวณโถงชั้นล่าง บ้านห้วยส้มป่อย หมู่ที่ 2 ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พบหารือกับภาคประชาสังคม และผู้นำชุมชนท้องถิ่นจังหวัดน่านเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาเมืองน่านในมิติต่าง ๆ อย่างยั่งยืน โดยมี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยตัวแทนภาคประชาสังคม และผู้นำชุมชนท้องถิ่นเข้าร่วมหารือ
นายกรัฐมนตรีกล่าวกับตัวแทนภาคประชาสังคมและผู้นำชุมชนท้องถิ่นจังหวัดน่าน ตอนหนึ่งว่ารัฐบาลได้ดำเนินการรวบรวมปัญหาในภาพรวม เพื่อมาศึกษาและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ซึ่งประเทศไทยต้องมีการเปลี่ยนแปลง ผู้นำต้องเป็นกำลังหลักในการเปลี่ยนแปลง และต้องสร้างความเข้าใจต่อประชาชนในทุกเรื่อง เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน ก่อให้เกิดความสามัคคี ลดความขัดแย้งเดินหน้าแก้ไขปัญหาของประเทศไปพร้อมกัน ซึ่งจังหวัดน่านเป็นจังหวัดที่มีปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติ และปัญหาการเกษตร ต้องพัฒนาการเกษตรไปสู่การเปลี่ยนแปลงแบบเกษตรแนวใหม่ นำเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่า สร้างโอกาส สร้างรายได้ต่อไป พร้อมกับกล่าวยืนยันว่า รัฐบาลมีเจตนารมณ์ที่จะดูแลคนไทยทั้งประเทศให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามศักยภาพ และขอให้คนไทยใช้แผ่นดินไทยให้เป็นประโยชน์โดยสมองของคนไทย
จากนั้น พระครูพิทักษ์ นันทคุณ เจ้าอาวาสวัดอรัญญาวาส ผู้ก่อตั้งมูลนิธิฮักเมืองน่านกล่าวเสนอแนะการแก้ไขปัญหาด้านป่าไม้ของหน่วยงานภาครัฐจังหวัดน่านว่า ที่ผ่านมาเป็นการแก้ไขปัญหาและใช้งบประมาณไม่ถูกจุด เจ้าหน้าที่ภาครัฐใช้เงินในการแก้ไขปัญหา เมื่อเงินหมดปัญหาก็หยุดชะงักไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาต่อไป จึงเสนอให้ประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการแก้ไข ปัญหา พร้อมกับมีหุ้นส่วนในการดำเนินการบริหารจัดการร่วมกันอย่างยั่งยืน ฝึกให้ประชาชนบริหารจัดการปัญหาโดยตนเอง เพื่อให้ประชาชนรู้สึกรักหวงแหน มีจิตวิญญาณในการปกป้องดูแลพื้นป่าร่วมกัน
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนมาโดยตลอด ซึ่งมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบในการบูรณาการทำงานร่วมกันในรูปแบบของประชารัฐ เน้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมและได้รับผลประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน พร้อมฝากให้หน่วยงานท้องถิ่นมีความเข้มแข็งในการบริหารจัดการอย่างมีระบบ ถ้าจังหวัดไหนยังมีปัญหา ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องรับผิดชอบ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางไปกราบนมัสการพระพุทธมหาพรหมอุดมสักยมุนี พระประธานจตุรพักตร์ในวิหารหลวง วัดภูมินทร์ ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
-----------------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th