โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ ขอให้คณะรัฐมนตรีน้อมนำพระราชดำรัสในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระราชทานในโอกาสขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2560 ไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ

ข่าวทั่วไป Wednesday January 4, 2017 13:59 —สำนักโฆษก

วันนี้ ( 4 ม.ค. 60) เวลา 13.50 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเรื่องที่นายกรัฐมนตรีปรารภต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ขอให้คณะรัฐมนตรีน้อมนำพระราชดำรัสในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระราชทานในโอกาสขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2560 ไปปฏิบัติหน้าที่และดำเนินชีวิตเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร พระราชทานพรปีใหม่ 2560 แก่ประชาชนชาวไทย ทรงขอบใจที่ทุกคนมาร่วมงานพระบรมศพอย่างพร้อมเพรียงกัน แสดงให้เห็นว่าคนไทยทุกคนมีจิตใจดี มีความกตัญญู เอื้ออาทร เอื้ออารีต่อกัน รักชาติ รักแผ่นดิน มีความรู้ มีความสามารถไม่แพ้ชาติใดในโลก ดังนั้นหากมีอุปสรรคปัญหาเกิดขึ้นในบ้านเมืองก็เชื่อได้ว่า ถ้าเราทุกคนร่วมกันคิดอ่านก็จะแก้ไขปัญหาเหล่านั้นไปได้ด้วยดี โดยอยากให้คนไทยมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะรักษาคุณสมบัติที่สำคัญดังกล่าวข้างต้นให้เหนียวแน่น ทำความคิดจิตใจให้แจ่มใส ด้วยปัญญาที่กระจ่าง พิจารณาทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริงโดยปราศจากอคติ ให้มีความมุ่งมั่น มีกำลังใจ ในอันที่จะร่วมกันปฏิบัติสรรพกิจน้อยใหญ่ในภาระหน้าที่ตามแนวพระบรมราโชบายในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานไว้ ให้งานทุกอย่างสำเร็จ เป็นผล เป็นความดี เป็นความเจริญทั้งแก่ตนเอง แก่ส่วนรวม และประเทศชาติ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ของพระองค์

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเพลง “สะพาน” ที่นายกรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) เป็นผู้ประพันธ์ขึ้นด้วยตนเอง ซึ่งเนื้อหาภายในเพลงได้เปรียบเสมือนให้คณะรัฐมนตรี ข้าราชการพลเรือน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และประชาชนทุกคนต้องเป็นสะพานเพื่อร่วมกันก้าวผ่านปัญหาความขัดแย้ง และก้าวข้ามสิ่งเก่า ๆ ที่ไม่ได้มีการพัฒนาไปสู่สิ่งที่พัฒนาเพื่อปฏิรูปประเทศ เพราะฉะนั้นทุกคนต้องร่วมมือกัน เพราะ “สะพาน” นี้จะไม่สามารถก้าวข้ามไปได้หากทุกคนยังคิดและวนเวียนอยู่กับความขัดแย้งกันและปัญหาแบบเดิม ๆ อยู่ ดังนั้น เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับทุกคนจึงได้ประพันธ์เพลงนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับทุกคนในการที่จะก้าวข้ามผ่านนำพาประเทศไทยทั้ง 1.0 2.0 และ 3.0 ไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ในอนาคต โดยการก้าวข้ามผ่านครั้งนี้จะเป็นการนำพาคนทุกกลุ่มในประเทศก้าวไปพร้อมกันจาก 1.0 ซึ่งเป็นการใช้แรงงานเป็นหลัก ไปเป็น 2.0 เป็นการใช้เครื่องจักรเบาเข้ามาช่วย และ 2.0 ไปเป็น 3.0 คือกลุ่มที่ใช้เครื่องจักรหนัก ก่อนที่จะก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ต่อไป

สำหรับตัวอย่างการดำเนินการที่จะก้าวไปสู่ 4.0 เช่น เรื่องนโยบายเกษตรแปลงใหญ่ของรัฐบาล ซึ่งจากเดิมคือ 1.0 เป็นการทำเกษตรด้วยแรงงานป็นหลักและต่างคนต่างทำ มาเป็น 2.0 คือการรวมที่ดินเกษตรที่อยู่ติดกันให้เป็นแปลงใหญ่ เพื่อรัฐบาลสามารถที่จะสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องจักรเข้ามาช่วยในการดำเนินการดังกล่าวให้ได้ผลผลิตที่มีปริมาณและคุณภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันในส่วนของ SMEs ที่เป็น 2.0 ซึ่งเป็นการใช้เครื่องจักรเบารัฐบาลได้มีนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ที่จะกระตุ้นให้มีการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่และขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อพัฒนาไปสู่ 3.0 ก่อนพัฒนาไปสู่ 4.0 ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น

-------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ