รอง นรม. พลเอก ประวิตรฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5ฯ ครั้งที่ 1/2560

ข่าวทั่วไป Monday January 9, 2017 13:25 —สำนักโฆษก

กห. จัดทำแผนยุทธศาสตร์ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) และกองทัพบกพร้อมพัฒนากำลังพลให้สามารถรองรับภัยคุกคามต่าง ๆ

วันนี้ (9 มกราคม 2560) เวลา 09.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5ฯ ครั้งที่ 1/2560

ภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมฯ เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. พลตรี คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย ร้อยตรีหญิง พรชนก อ่ำพันธุ์ ประจำโฆษกกระทรวงกลาโหม ได้แถลงข่าวสรุปประเด็นสำคัญ ดังนี้

ที่ประชุมได้รับทราบการรายงานความก้าวหน้าในการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหมในการจัดทำยุทธศาสตร์ระยะ 20 ปีของกระทรวงกลาโหม (พ.ศ. 2560 - 2579) เพื่อรองรับยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) ของรัฐบาลตลอดจนการจัดทำแผนแม่บทโครงสร้างและแผนพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพบก (พ.ศ. 2560 - 2579) เพื่อให้กองทัพบกมีความทันสมัย และมีกำลังพลเหมาะสมในการรองรับภัยคุกคามต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคต

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบการรายงานความก้าวหน้าในการปฏิรูปตำรวจโดยเน้นการพัฒนาศักยภาพของสถานีตำรวจทั่วประเทศทุกสถานี (สน.) ให้ทำงานเพื่อให้บริการประชาชนด้วยการสร้างความพึงพอใจแก่ประชาชน โดยเมื่อประชาชนขึ้นมาติดต่อด้วยเรื่องเดือดร้อนใด ๆ ก็ตาม ตำรวจในสถานีตำรวจทุกคนต้องพร้อมให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่ อีกทั้งตำรวจมีการลงพื้นที่พบปะดูแลประชาชนเป็นประจำทุกวันพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกประชาชนตลอดเวลา ตลอดจนสร้างการรับรู้และความเข้าใจแก่ประชาชนเพื่อนำไปสู่การมีส่วนร่วมและเป็นเครือข่ายร่วมกันระหว่างตำรวจกับประชาชน ทั้งนี้ ผู้บังคับบัญชาในทุกระดับชั้น ต้องมีส่วนร่วมไปกำกับดูแลการปฏิบัติงานดังกล่าวของผู้ใต้บังคับบัญชาด้วย พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกภูทับเบิก อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยสามารถทวงคืนผืนป่า เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติกว่า 44 ไร่ (รื้อถอนรีสอร์ท 19 แห่ง)

โฆษกกระทรวงกลาโหมแถลงเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการรุกลำน้ำสาธารณะที่คลองลาดพร้าว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำในคูคลองให้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันรัฐบาลได้ทำความเข้าใจกับประชาชนและสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ด้วยการพัฒนาชุมชนให้น่าอยู่โดยดำเนินการแล้วเสร็จไปแล้ว 495 ครัวเรือน พร้อมมีสหกรณ์ชุมชนดูแลควบคู่กันไปอีก 18 แห่ง ส่วนอีก 5,900 ครัวเรือนอยู่ในระหว่างพัฒนาชุมชนให้น่าอยู่เช่นกัน ทั้งนี้ พื้นที่ที่สร้างชุมชนให้น่าอยู่นั้น อยู่ในความดูแลของ กรมธนารักษ์ซึ่งได้มีการบริหารจัดการให้ประชาชนเหล่านั้นได้เช่าถูกต้องตามกฎหมายอีกด้วยเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล

สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง หรือแฟลตดินแดงนั้น รัฐบาลได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารใหม่แล้วเมื่อปลายปี 2559 โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนมิถุนายน 2561 ซึ่งประชาชนจะสามารถเข้าอยู่อาศัยได้จำนวน 334 หน่วย ส่วนลำดับต่อไปรัฐบาลจะพัฒนาต่อไปอีก 612 หน่วย พร้อมทั้งพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้แล้วเสร็จสมบูรณ์กว่า 22,900 หน่วย สามารถรอบรับประชาชนได้กว่า 1 แสนคน ทั้งนี้ รัฐบาลมุ่งมั่นให้โครงการนี้สร้างความเท่าเทียมกัน พร้อมลดความเหลื่อมล้ำในสังคมอีกด้วย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้แก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายโดยให้สร้างอาชีพใหม่ เช่น การทำอาชีพเกษตรกรรมหรืออื่น ๆ ตามที่ต้องการ พร้อมมีธนาคารออมสินและ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้ความช่วยเหลือด้านสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยต่ำ

โฆษกกระทรวงกลาโหมได้แถลงย้ำอีกว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมอากาศยานของไทย โดยมีความคืบหน้าของโครงการนำร่องด้วยการสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน ที่สนามบินอู่ตะเภา จังหวัดชลบุรี ตลอดจนมีอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนอากาศยานที่นิคมอุตสาหกรรมระยอง และนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ซึ่งคาดหมายว่าในอนาคตอันใกล้ ประเทศไทยจะเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานของภูมิภาคอาเซียน

ตอนท้ายของการแถลงข่าว โฆษกกระทรวงกลาโหมได้กล่าวว่า รัฐบาลเห็นความสำคัญของการจัดระเบียบรถตู้สาธารณะ โดย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานการประชุมฯ ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมไปจัดทำแผนแม่บท ในการจัดทำโครงสร้างระบบรถตู้สาธารณะเพื่อเปลี่ยนแปลงเป็นรถบัสขนาดกลางเพื่อรองรับประชาชนที่เดินทางในระยะประมาณ 200 กิโลเมตร ให้มีความสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ส่วนการจัดระเบียบรถตู้สาธารณะซึ่งได้ดำเนินการไปแล้ว ประธานได้กำชับให้กระทรวงคมนาคมไปกำกับดูแล การรับ-ส่ง ประชาชนให้มีสถานีหรือท่ารับ - ส่งที่ถูกต้องและเป็นระบบ ส่วนที่มีผู้แอบอ้างรัฐบาลหรือ คสช. เพื่อรีดไถผู้ประกอบการรถตู้สาธารณะนั้น ประธานได้กำชับให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายโดยเฉียบขาด

รวมทั้ง ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าในการขยายเส้นทางการจราจรทางน้ำโดยการเดินเรือในคลองผดุงกรุงเกษมระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายกรุงเทพมหานคร ด้วยความร่วมมือของกองทัพเรือในการกำกับการให้บริการเรือโดยสารจากท่าเรือหัวลำโพงไปยังท่าเรือเทวราชฯ ซึ่งเป็นท่าเรือแห่งใหม่ โดยเปิดบริการประชาชนฟรีทุกวัน โดยเรือออกทุก ๆ 10 นาที ระหว่างเวลา 06.00 น. – 21.00 น. ของวันจันทร์ – วันศุกร์ ส่วนวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 08.00 – 21.00 น. ทั้งนี้ มีประชาชนมาใช้บริการต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกันยายน 2559 – ปัจจุบัน เฉลี่ยวันละ 1,500 – 2,000 คน โดยรัฐบาลคาดหวังว่า การสัญจรทางน้ำในคลองผดุงกรุงเกษมจะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เพื่อลดเวลาในการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจประจำวัน อีกทั้งสามารถเดินทางไปยังจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือ MRT สถานีหัวลำโพง ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าในการดำเนินการระบบตั๋วร่วม โดยมุ่งหวังให้เป็นการเพิ่มความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อการเดินทางทุกรูปแบบให้กับประชาชนด้วยบัตรเพียงใบเดียวเท่านั้น คาดว่าจะเปิดให้บริการแก่ประชาชนได้ภายในเดือนกันยายน 2560 พร้อมทั้งได้มีการร่างพระราชบัญญัติการบริการจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. .... เพื่อให้ระบบตั๋วร่วมสามารถให้บริการประชาชนด้วยระบบขนส่งมวลชนทุกรูปแบบอย่างแท้จริง

โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวย้ำอีกว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มุ่งมั่นและตั้งใจในการทำงานหนักเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้ทุกภาคส่วนทั้ง ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ได้ร่วมแรงร่วมใจกันขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าเพื่อประโยชน์สุขของคนไทยทุกคน

********************************

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ