นายกรัฐมนตรีย้ำรัฐบาลเน้นให้การศึกษาเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนา พร้อมแนะให้ทุกคนร่วมมือกันทำความดีเพื่อแผ่นดิน

ข่าวทั่วไป Saturday January 14, 2017 07:21 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีมอบโอวาทกับเด็กและเยาวชนในโอกาสวันเด็กแห่งชาติปี 60 ย้ำรัฐบาลเน้นให้การศึกษาเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนา โดยครอบครัว ครู อาจารย์ ต้องร่วมมือกันขับเคลื่อนการศึกษา พร้อมแนะให้ทุกคนร่วมมือกันทำความดีเพื่อแผ่นดินเพื่อสนองพระราชปณิธาน-ร่วมสร้างวัฒนธรรมให้องค์กรมีคุณธรรมจริยธรรม

วันนี้ (14 ม.ค.60) เวลา 11.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวให้โอวาทกับเด็กและเยาวชน ในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2560 โดยมีรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้ปกครอง เด็กและเยาวชนจำนวนมากเข้าร่วมงาน

เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางถึงตึกสันติไมตรีหลังนอก ได้รับชมการแสดงจากเด็กและเยาวชน ประกอบด้วย การขับร้องเพลง “ต้นไม้ของพ่อ” โดย ด.ญ.วิภาดา พรวัฒนานุกูล หรือน้องใบพลู ต่อด้วยการขับร้องเพลงประสานเสียง “พระราชาในนิทาน” ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษามือ จาก กอ.รมน. และเสถียรธรรมสถาน

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวให้โอวาทกับเด็กและเยาวชน เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2560 สรุปสาระสำคัญว่า รัฐบาลจะต้องทำให้เด็กเยาวชนทุกคนเดินไปพร้อม ๆ กัน จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ต้องนำพาประเทศชาติของเราไปด้วยกันทั้งหมด 70 ล้านคน ซึ่งการจัดงานวันเด็กที่ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้จัดขึ้นพร้อมกับในหลายพื้นที่ เพื่อให้วันเด็กเป็นวันแห่งอนาคต เป็นวันแห่งการเรียนรู้ และเข้ามาร่วมกันปลูกฝังอุดมการณ์ของความรักชาติให้เกิดขึ้นให้ได้เร็วที่สุด โดยวันนี้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการศึกษามาเป็นอันดับที่ 1 ควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เพราะเศรษฐกิจจะพัฒนาได้ก็ด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ด้วยการพัฒนาเด็ก เยาวชน นิสิตนักศึกษา และประชาชนทั่วไป ให้ไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่เรียกว่าสังคม 4.0 คือทุกคนต้องเรียนรู้เพิ่มขีดความสามารถของตัวเอง มีการพัฒนาตัวเองตลอดเวลา

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลให้ความสนใจเรื่องการเรียนรู้ตั้งแต่ปฐมวัยจนถึงระดับอุดมศึกษา และการเรียนรู้ผ่านทุกช่วงวัยที่เป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งสิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งนอกจากการเรียนในโรงเรียนคือต้องมีคุณธรรม เป็นคนดีที่มีคุณธรรม รู้ดีรู้ชั่ว ถ้าทุกคนมีคุณธรรมจะเกิดสังคมที่มีคุณธรรม มีความแข็งแรงทุกพื้นที่ทั้งชุมชน จังหวัด ตำบล หมู่บ้าน ประเทศก็จะเป็นประเทศที่มีคุณธรรมและจริยธรรม องค์กรต่าง ๆ ภาคธุรกิจเอกชนก็มีคุณธรรมและจริยธรรม ดังนั้น ทุกคนต้องสร้างวัฒนธรรมในองค์กรของตัวเองให้มีคุณธรรมและจริยธรรมเกิดขึ้นให้ได้ ทั้งนี้ ทุกอย่างเริ่มจากเด็ก ครอบครัว โรงเรียน และศาสนา ที่มีการเรียนการสอนในการพัฒนาเด็กไปสู่สังคมที่มีศีลธรรม วันนี้รัฐบาลเน้นให้การศึกษาเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนา ซึ่งครอบครัว ครู อาจารย์ จะต้องร่วมมือกันขับเคลื่อนการศึกษาเพราะรัฐบาลมุ่งเน้นเรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยจะต้องพัฒนาเด็กให้ได้ภายในอายุ 20 ปี เมื่อเรียนจบมหาวิทยาลัย จะต้องมีงานทำ มีรายได้ที่เพียงพอ สามารถเลี้ยงครอบครัว ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมให้ได้ ซึ่งรัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการที่จะขับเคลื่อนสิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องที่ยากแต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เพราะสังคมมีความแตกต่าง ทั้งอาชีพ รายได้ ความคิด ความเป็นอยู่ต่าง ๆ เหล่านี้ทั้งหมด เราจึงต้องแสวงหาความร่วมมือให้ได้ ท่ามกลางความแตกต่างเหล่านั้นให้ได้โดยเร็วและไม่มีความขัดแย้ง

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อยากให้ทุกคนร่วมมือกันช่วยกันทำความดีเพื่อแผ่นดิน สนองแนวพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงพระราชทานความห่วงใยเราอยู่เสมอ ขณะเดียวกันสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ ได้ทรงมีรับสั่งกับนายกรัฐมนตรีหลายครั้งในเรื่องการให้ความสำคัญกับเด็ก การศึกษาและการพัฒนาประเทศว่า ขอให้พัฒนาเด็กให้มีวินัย คำว่าวินัยสำคัญที่สุด วินัยของคนในชาติ พร้อมกับพัฒนาในเรื่องของความรู้

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสิ่งที่นายกรัฐมนตรีคาดหวังคือ เด็กทุกคนต้องเข้าสู่ระบบการศึกษาทั้งหมด สนใจการศึกษาเล่าเรียน เรียนจากหนังสือ ครู ตำรา อ่านหนังสือเพื่อให้รู้จักใช้สมองใช้ความคิด ให้อ่านหนังสือได้เร็วขึ้น จะได้คิดร้อยเรียงเหมือนหนังสือ เพื่อทำให้กระบวนการคิดวิเคราะห์ในสมองมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลทุกรัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญกับการศึกษา และทำให้บุคลากรทางการศึกษามีกำลังใจในการที่จะคิด เขียน และเปลี่ยนการพัฒนาการเรียนรู้ ซึ่งในเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีก็ได้มอบนโยบายไปแล้ว โดยในปีนี้จะต้องพัฒนาเด็กให้ได้ ให้มีการเรียนการสอนในลักษณะที่เป็นเหมือนครูที่สอนอยู่นอกโรงเรียนให้ได้ทุกโรงเรียน รวมทั้งจะต้องพัฒนาการสอน พัฒนาการจัดหลักสูตร การทำหนังสือ ตำรา ทำข้อสอบ การเขียนอ่านให้เร็วขึ้น

“วันนี้ผมไปที่สนามเสือป่า คนเยอะ เยอะขึ้นกว่าปีก่อน ปีก่อนก็เยอะกว่าปีก่อน แสดงว่าบ้านเมืองเรากำลังจะไปสู่ความสงบเรียบร้อย ที่ผมบอกว่าความงดงามจะคืนกลับมา ใช้เวลาอีกไม่นาน ไม่นานก็คืออยู่ที่ท่าน จะนานแค่ไหนผมอยู่ที่ท่าน พรุ่งนี้ก็ได้ มะรืนก็ได้ ปีนี้ก็ได้ ปีหน้าก็ได้ แล้วแต่ท่าน เพราะท่านคือคนไทยทุกคนที่ต้องมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ อย่าปล่อยให้รัฐบาลทำคนเดียว ข้าราชการก็ทำคนเดียวไม่ไหว อยู่ที่ความร่วมมือทุกคน สิ่งที่รัฐบาลนี้ทำทุกอย่างเพื่อพวกเราทุกคน ไม่มีเพื่อใครทั้งสิ้น ตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่” นายกรัฐมนตรีกล่าว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เด็กและเยาวชนรู้อะไรไม่สู้รู้วิชา อ่านหนังสือ ฟังครู เมื่อเปิดสื่อสังคมออนไลน์ก็อ่านสิ่งที่ควรจะอ่าน ถ้าพบอะไรที่ผิดกฎหมายขอให้แจ้งความให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ ถ้าเห็นในสิ่งที่ไม่ดีก็อย่าไปแพร่ อย่าไปสนใจ เด็กในวันนี้ต้องรู้กฎหมาย ทุกประเทศในโลกถือว่าทุกคนต้องรู้กฎหมาย อย่าบอกว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้ เพราะกฎหมายเป็นสิ่งที่ทำให้สังคมสงบสุข ทำให้สังคมมีความเท่าเทียม เพราะอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน หากมีเจ้าหน้าที่ที่ทำผิด รัฐบาลจะไปแก้ไขทั้งหมด และในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวขอให้ทุกคนส่งความห่วงใยไปยังประชาชนพี่น้องชาวใต้ที่ยังประสบอุทกภัยอยู่หลายจังหวัด รวมทั้งกล่าวอวยพรให้ทุกคนมีความสุขความเจริญแข็งแรง ร่วมกันพัฒนาสังคม ประเทศชาติ ให้มีความเจริญก้าวหน้ามั่นคงยั่งยืนสืบไป

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ถ่ายภาพร่วมกับเด็กและเยาวชน แล้วไปที่ตึกสันติไมตรีหลังใน เพื่อชมกิจกรรมของกระทรวงวัฒนธรรมและสำนักงาน กปร. ซึ่งเป็นการขับร้องเพลงประสานเสียง “ยิ้มสู้” และ “ตามรอยพ่อ” โดยคณะนักร้องประสานเสียงเยาวชนไทยที่ได้รับรางวัลชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 9 สหพันธรัฐรัสเซีย ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมกิจกรรมของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สนามหญ้าหน้าตึกสันติไมตรี พร้อมกับทักทายเด็ก ๆ และเยาวชนอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับ

---------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ