นายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่าครั้งที่ 2/2560 ที่กระทรวงอุตสาหกรรม

ข่าวทั่วไป Friday February 10, 2017 13:41 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมบูธผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ก่อนเป็นประธานประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่าที่กระทรวงอุตสาหกรรม-ให้กำลังใจในการทำงานแก่ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ทุกคน พร้อมชื่นชมที่ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้มีการวิจัยพัฒนาต่อยอดมากขึ้น ย้ำให้ผลิตสินค้าตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้ผู้อุปโภคบริโภคนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง

วันนี้ (10 ก.พ.) เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เขตราชเทวี กรุงเทพฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 2/2560 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้มีการนำเสนอประเด็นที่สำคัญ 4 เรื่อง ได้แก่ 1) กระทรวงอุตสาหกรรมและการขับเคลื่อน Thailand 4.0 ที่จะทำให้ประเทศก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง อุตสาหกรรมไทยเข้มแข็งและได้เปรียบในเชิงแข่งขัน เช่น SMEs และวิสาหกิจได้รับการพัฒนาให้เข้มแข็ง อุตสาหกรรมมี SPI เพื่อเพิ่มมูลค่าและเชื่อมโยงสู่ตลาดโลก อุตสาหกรรมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเชื่อมโยงแผนยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงอุตสาหกรรม (ยุทธศาสตร์ชาติ แผนงาน 20 ปีของกระทรวงอุตสาหกรรม และแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12) การขับเคลื่อน 5 อุตสาหกรรมเป้าหมายนำร่องในปี 60 (ยานยนต์สมัยใหม่ แปรรูปอาหาร สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม เชื้อเพลิงและเคมีชีวภาพ) Eastern Economic Corridor ฯลฯ 2. การดำเนินงานตามข้อสั่งการ เช่น การตรวจกำกับดูแลสถานประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมและเหมืองแร่ การส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3) การขอรับการสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี เช่น กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐ เพื่อช่วยเหลือสนับสนุน SMEs ให้มีมูลค่าสูงตามนโยบาย Thailand 4.0 และสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจฐานราก โครงการศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (ครม.มีมติ 1 พ.ย.59 ให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จปี 2562) และ 4) การบูรณาการกับส่วนราชการอื่น เช่น โครงการความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของประเทศไทย (Safety Thailand) เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ อุบัติภัย และโรคจากการทำงาน สร้างเสริมความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของคนทำงานให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน การแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำ และหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Industry Village) ซึ่งมีหมู่บ้านเป้าหมายการพัฒนา 1 จังหวัด 1 หมู่บ้าน จำนวน 76 หมู่บ้าน โดยจะเปิดตัว 9 หมู่บ้านน้ำร่องในเดือนมีนาคม 2560 ก่อนขยายผลโครงการไปสู่หมู่บ้านอุตสาหกรรมฯ ในทุกจังหวัด โดยมีนาย อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกะทรวงอุตสาหกรรม เลขาธิการ ก.พ. ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงอุตสาหกรรม ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมบูธผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เช่น การประยุกต์ใช้น้ำยางพาราและพืชให้สีสู่การพัฒนาแม่พิมพ์และสารเหลว เขียนลวดลายบนผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทดแทนการใช้เทียนและพาราฟิน ลดปริมาณการนำเข้าผสานการยอมสีธรรมชาติจากพืชให้สีในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกระดับคุณภาพผลักดันสู่อุตสาหกรรมสิ่งทอที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์สิ่งทอยานยนต์จากใบสัปปะรด ซึ่งเป็นการนำใบสัปปะรดที่เหลือทิ้งจำนวนมากมาพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างมูลค่า หน้ากากสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง ป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยขยับหรือเคลื่อนไหวศีรษะในขณะฉายรังสี ทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศทำให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งเข้าถึงอุปกรณ์มากขึ้น แผ่นรองแผลกดทับ ช่วยดูดซับแรงกดจากอิริยาบถต่าง ๆ เป็นระยะเวลานาน การพัฒนาเส้นใยมะพร้าวในผลิตภัณฑ์สิ่งทอคุณสมบัติพิเศษสำหรับผู้สูงอายุ อาทิ รองเท้าผู้สูงอายุ เป็นต้น

รวมทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้ตรวจเยี่ยมสำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ที่ชั้น 5 ซึ่งซึ่งตั้งขึ้นภายใต้คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ตามมาตรา 44 โดยมีนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(กรศ.) นำเยี่ยมชม โดยนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้มีการสร้างการรับรู้กับประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องอย่างกว้างขวางให้มากขึ้น รวมถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากการดำเนินโครงการดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนและทุกภาคส่วนในพื้นที่เกิดความเข้าใจพร้อมให้ความร่วมมือสนับสนุนการดำเนินโครงการต่าง ๆ ในพื้นที่ต่อไป

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจในการทำงานแก่คณะหัวหน้าส่วนราชการฯ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน ซึ่งข้าราชการทุกภาคส่วนถือเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการที่จะร่วมกันขับเคลื่อนประเทศเดินหน้าไปได้ตามเป้าหมายที่กำหนด พร้อมกล่าวชื่นชมผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ได้มีการวิจัยพัฒนาและจะมีการต่อยอดขยายไปสู่อุตสาหกรรมให้มากขึ้น โดยเน้นย้ำว่า การออกแบบผลิตภัณฑ์ต้องให้มีความสวยงามและน่าสนใจ มีหลากหลายรูปแบบ สอดคล้องกับความนิยมของประชาชนในยุคปัจจุบันและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตลอดจนมีความสมดุลทั้งอุปสงค์และอุปทาน อย่างไรก็ตามการผลิตสินค้าหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ใด ๆ ต้องคิดและผลิตให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้ผู้อุปโภคบริโภคและประชาชนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ได้มีการจัดประชุมขึ้นทุก 2 เดือน เพื่อให้เวลาในการทำงานกับกระทรวงและเจ้าหน้าที่ โดยในระหว่าง 2 เดือนก็ได้มีการตรวจติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานที่ได้สั่งการไปแล้วผ่านคณะกรรมการต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดต่อเนื่องมาโดยตลอด เพื่อนำข้อติดขัดหรืออุปสรรคปัญหาที่เกิดขึ้นมาหารือร่วมกันในการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่าอีกครั้ง เพื่อให้สามารถดำเนินงานไปได้ตามห้วงระยะเวลาที่กำหนด อย่างไรก็ตามหากการทำงานใดยังมีปัญหาข้อติดขัดในเรื่องต่าง ๆ ก็สามารถนำเสนอเข้ามาที่ประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) พิจารณาเพื่อจะได้นำไปสู่การขับเคลื่อนให้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนด

ทั้งนี้ การทำงานของรัฐบาลชุดปัจจุบันเป็นการทำงานทั้งในส่วนของงาน Function ของแต่ละกระทรวง งานยุทธศาสตร์ Agenda ตามนโยบายรัฐบาล รวมถึงงานบูรณาการระหว่างกันของกลุ่มกระทรวงที่เกี่ยวข้อง และงานปฏิรูปและปรองดอง ซึ่งงานและกลไกต่าง ๆ เหล่านี้ต้องดำเนินการให้ประสานสอดคล้องเชื่อมโยงกันทั้งหมด โดยวันนี้การทำงานต่าง ๆ มีความก้าวหน้าเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งจะมอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องชี้แจงให้ประชาชนรับทราบผ่านสื่อต่าง ๆ ในโอกาสต่อไป รวมทั้งได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก ร่วมกันปฏิรูประบบอุตสาหกรรมไทยให้ได้ เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในการสร้างงาน สร้างอาชีพและรายได้กับประชาชนให้ได้โดยเร็ว โดยขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งรัดดำเนินการในเรื่องของ EEC ซึ่งคาดว่าจะมีการลงทุนจำนวนหลายล้านล้านบาท และทำให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่จำนวนมาก

พร้อมทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการจัดทำยุทธศาสตร์กระทรวงว่า นอกจากการทำยุทธศาสตร์ของกระทรวงให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแล้วยังต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนเป็นสำคัญ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนทุกภาคส่วนของประเทศ รวมทั้งได้ชื่นชมการดำเนินงานโครงการหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Industry Village) ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพการบริหารงานของชุมชนตามแนวทางประชารัฐและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์โดยใช้ความสร้างสรรค์และเสน่ห์ของภูมิปัญญาท้องถิ่น และขอให้มีการสร้างการรับรู้กับประชาชนในพื้นที่เข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินโครงการดังกล่าวก่อนขยายให้ครบทุกจังหวัดตามเป้าหมายที่กำหนด

ขณะที่เรื่องของศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ให้มีการส่งเสริมนักลงทุนในประเทศหรือในพื้นที่เป็นอันดับแรกก่อนส่งเสริมสนับสนุนนักลงทุนต่างประเทศ เพื่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชน อันจะส่งผลให้เกิดการสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน

อีกทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเน้นย้ำว่า วันนี้คนไทยนอกจากการคิดวิเคราะห์ให้เป็นแล้ว ยังต้องมีหลักคิดโดยมีกฎหมายประกอบการคิดพิจารณาด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของประชาธิปไตยต้องมีสิทธิเสรีภาพโดยไม่ละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น ซึ่งหากเรื่องใดที่คิดโดยใช้อารมณ์ความรู้สึกหรือทำจนสุดโต่งจนเกินไปก็จะทำให้เกิดปัญหาและทำให้ไม่สามารถสร้างความปรองดองเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ ปัจจุบันต้องมีการแสวงหาการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนในการปฏิรูปประเทศในด้านต่าง ๆ ซึ่งมีความจำเป็นและสำคัญให้ได้ เช่น เรื่องการปฏิรูปกระบวนการประชาธิปไตยเพื่อให้เกิดความสามัคคีปรองดองในประเทศ การปฏิรูปเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรมทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นสาเหตุของความขัดแย้งในสังคม และการปฏิรูประบบการศึกษาของประเทศไทย ซึ่งต้องสอนให้คนรู้จักคิดวิเคราะห์เป็นโดยมีหลักคิดที่ถูกต้องตามกรอบของกฎหมาย เพื่อให้สามารถทำงานและขับเคลื่อนประเทศเดินหน้าต่อไปได้

------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ